ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 9
ศาสนาชินโต
9.1 ประวัติความเป็นมา
ศาสนาชินโต เกิดเมื่อประมาณ 117 ก่อน พ.ศ. โดยคิดตามสมัยจักรพรรดิองค์แรกของ
ญี่ปุ่นคือ พระเจ้าจิมมู เทนโน (Jimmu Tenno) คำว่าชินโต เป็นภาษาจีนแต่ออกเสียงตาม
สำเนียงญี่ปุ่น กล่าวคือคำนี้มาจากภาษาจีนว่า เช่นเต๋า ก็คำว่าเชนหรือชิ้นแปลว่าเทพเจ้า ส่วน
คำว่าเต๋า แปลว่าทาง เมื่อรวมกันแปลว่าทางแห่งเทพเจ้า ข้อนี้อาจหมายถึงการบูชาเทพเจ้า
หรือคำสอนของเทพเจ้าหรือศาสนาของเทพเจ้าก็ได้ ส่วนในภาษาญี่ปุ่นเรียกศาสนานี้ว่า
“กามิโนมิจิ” (Kaminomichi) แต่ชื่อนี้ไม่แพร่หลายเท่ากับคำว่าชินโต ก็แต่เดิม ศาสนาชินโต
ยังไม่มีชื่อต่อมาเมื่อพุทธศาสนาและศาสนาขงจื้อได้แผ่เข้าไปถึงประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นจึงจำ
ต้องตั้งชื่อศาสนาดั้งเดิมของตนเพื่อให้แตกต่างกัน ก็ศาสนาชินโตดั้งเดิมไม่มีศาสดาหรือผู้ตั้ง
ศาสนา แต่เกิดมาจากขนบธรรมเนียมประเพณีที่ถือสืบต่อกันมา มีประเพณีการบูชาเทพเจ้า
และบรรพบุรุษเป็นต้น ดังนั้น ศาสนาชินโตจึงไม่มีคำสอนที่แน่นอนไม่มีคัมภีร์ที่ตายตัวเพราะ
แต่ละยุคแต่ละถิ่นก็มีความเชื่อแตกต่างกันไป
ชินโต เป็นศาสนาพหุเทวนิยมนับถือเทพเจ้ามากมาย เทพเจ้าในศาสนาชินโตก็มีหลาย
ประเภท มีทั้งเทพเจ้าแท้ และเทพเจ้าที่ไปจากมนุษย์ เช่นพระเจ้าจักรพรรดิ วีรบุรุษในสงคราม
และวิญญาณของหลายคนที่มารวมกัน เช่นเทพเจ้าแห่งขุนเขา ก็มาจากวิญญาณมากมายของ
พวกคนที่เคยอยู่ตามภูเขารวมกัน เทพเจ้าแห่งทะเลก็มาจากวิญญาณจำนวนมากของพวกคนที่
เคยอยู่แถบทะเลเป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเทพเจ้าที่ไปจากสัตว์ที่คนเคารพอีกด้วย ก็เทพเจ้าดัง
กล่าวจะสิงสถิตอยู่ในธรรมชาติทั่วไป เช่น ภูเขา ลำเนาไพร ท้องฟ้า ทะเลและแผ่นดิน เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ในประเทศญี่ปุ่น จึงมีศาลเจ้ามากมายจำนวนแสนจนได้นามว่าดินแดนแห่งศาลเจ้า
และศาลเจ้าที่เป็นสัตว์ก็มีด้วย เช่น ศาลเจ้าสุนัขจิ้งจอก และศาลเจ้าเสือ เป็นต้น สิ่งที่เคารพ
เหล่านี้ชาวญี่ปุ่นเรียกรวมๆ กันว่า กามิสะมะ (Kamisama) เหมือนกันหมด ก็คำว่ากามิ
เสฐียร พันธรังสี, ศาสนาเปรียบเทียบ, 2516 หน้า 575.
ศ า ส น า ชิ น โต DOU 241