ชีวประวัตินานัก ศาสดาซิกข์ DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 191
หน้าที่ 191 / 481

สรุปเนื้อหา

นานักเป็นเด็กชายที่เกิดในปากีสถานเมื่อปี 2012 ครอบครัวเป็นฮินดูและยากจน เขาได้รับการศึกษาจากครูมุสลิม มีความเฉลียวฉลาดตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุ 14 ปี เขาแต่งงานแต่สุดท้ายหนีห่างกับภรรยา เพื่อค้นหาความสงบในป่า...

หัวข้อประเด็น

-ชีวประวัติของนานัก
-การศึกษาและการจัดการวรรณกรรม
-ชีวิตสมรสและความท้าทาย
-คำสอนทางศาสนา
-ความมีน้ำใจและการช่วยเหลือผู้อื่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บนฝั่งแม่น้ำราวี ประเทศปากีสถานเมื่อ วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2012 ตระกูลเป็นฮินดู วรรณะ พราหมณ์ บิดาชื่อกุล หรือเมห์ตากัลยาดาส มารดาชื่อตริปตะ มีฐานะยากจน มารดาเป็นผู้ เคร่งครัดในศาสนามากส่วนบิดาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยเงินเดือนต่ำคอยรับใช้ผู้ว่าราชการเมือง เมื่อนานักเจริญวัยอายุได้ 7 ขวบ ก็ได้รับการศึกษาในสำนักของครูที่เป็นมุสลิม ตาม ประวัติกล่าวว่านานักเป็นคนมีสติปัญญา และช่างคิดอ่านตั้งแต่อยู่ในวัยเยาว์ สามารถแสดง ปัญญาความสามารถไต่ถามความรู้เรื่องพระเจ้าต่อครูอาจารย์ได้ศึกษาศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู มีความรู้แตกฉานในคัมภีร์พระเวท ต่อมาอีก 2 ปี ได้ศึกษาภาษาเปอร์เซีย (อิหร่าน) เพื่อ เรียนรู้ลัทธิคำสอนของโซโรอัสเตอร์ ผู้เป็นศาสดาของศาสนาโซโรอัสเตอร์ ยังผลให้นานัก สามารถแสดงวาทะโต้ตอบหลักศาสนากับคณาจารย์ผู้ใหญ่ได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กอย่างเป็นที่ น่าอัศจรรย์ จนชาวซิกข์ได้มีความเชื่อกันในตอนหลังว่า ท่านคุรุนานักศาสดาของตนสามารถ สั่งสอนคนได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ นานักเป็นคนมีนิสัยกว้างขวางอารีอารอบ ทั้งๆ ที่ตนเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนร่ำรวย ชอบ แบ่งปันข้าวของเงินทองแก่ผู้อื่น จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสังคมยุคนั้น ใฝ่การศึกษา เรื่องศาสนาเป็นชีวิตจิตใจไม่ชอบเป็นนักรบหรือค้าขาย หรือแม้แต่ตำแหน่งราชการชั้นสูง ที่ทางบ้านเมืองเสนอให้ก็ปฏิเสธ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะมีความมุ่งมั่นที่จะใช้หลักศาสนาเข้าแก้ไข สังคมที่แตกแยกขาดความสามัคคี พยายามที่จะค้นหาคำสอน เปรียบเทียบคำสอน และแก้ไข คำสอนให้ใช้ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น โดยได้รับแรงสนับสนุนช่วยเหลือในเรื่องนี้ จากพวกญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ เป็นอย่างดี 6.2.2 ชีวิตสมรส เมื่ออายุ 14 ปี ได้สมรสกับหญิงผู้เป็นกุลสตรีชาวตัลวันที่ชื่อ สุนัขนี เมื่อแต่งงาน แล้วประมาณ 10 ปี มีบุตร 2 คน คือ ศรีจันท และ ลักษมีทาส ปรากฏว่าชีวิตสมรสช่วงหลังๆ หาความสุขได้ยาก เพราะนานักและภรรยามีนิสัยและรสนิยมคนละแบบ นานักชอบความสงบ แต่ภรรยาชอบสนุกแบบโลกิยะวิสัย ส่วนนานักมีอัธยาศัยโน้มน้อมไปในทางศาสนา พอใจแต่ง บทเพลงสรรเสริญพระเจ้า มีใจเมตตากรุณาโอบอ้อมอารีต่อคนยากจน โดยแบ่งปันสิ่งของที่มี อยู่ให้เป็นทานเสมอๆ เมื่อหาความสงบที่บ้านไม่ได้ ในที่สุดจึงตัดสินใจหนีภรรยาและลูกออก ไปหาความสงบทางใจในป่า เมื่ออายุ 36 ปี 176 DOU ศาสนศึกษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More