ประวัติศาสตร์ชาวเฮบรูและการก่อตั้งอาณาจักร DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 311
หน้าที่ 311 / 481

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้เล่าถึงประวัติศาสตร์ชาวเฮบรูตั้งแต่การนำของโมเสส จนถึงการสร้างรัฐและอาณาจักร โดยเริ่มจากการยึดดินแดนที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดน การตั้งกษัตริย์โซลและโซโลมอน รวมถึงการสร้างโบสถ์ใหญ่ที่กรุงเยรูซาเลม สมัยของโซโลมอนถือเป็นยุคทองของชาวเฮบรู ก่อนจะมีการแบ่งประเทศเป็นยูดาห์และอิสราเอล และการถูกยึดครองโดยบาบิโลนและต่อมาโดยเปอร์เซีย ท้ายสุดเล่าถึงการถูกปกครองโดยกรีกและโรมัน

หัวข้อประเด็น

- ประวัติศาสตร์ชาวเฮบรู
- การตั้งอาณาจักร
- การก่อตั้งของโซโลมอน
- การแยกรัฐยูดาห์และอิสราเอล
- การถูกยึดครองและการเป็นเชลย
- ผลกระทบของการอพยพ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระองค์คนหนึ่งอยู่ในโลกนี้ เมื่อโมเสสพาพี่น้องชาวเฮบรูเร่ร่อนต่อไป จนถึงลุ่มแม่น้ำจอร์แดนอันเป็นถิ่นอุดมสมบูรณ์ และได้ต่อสู้กับชาวคานาเจ้าของถิ่น เมื่อโมเสสสิ้นชีวิตลงโยซัวก็ได้เป็นผู้นำต่อมา ในที่สุด ชาวเฮบรูก็สามารถยึดดินแดนแถบนี้ได้ จึงมีอาชีพเป็นหลักแหล่งไม่ต้องเร่ร่อนเหมือนแต่ก่อน อาชีพที่ทำก็คือ การกสิกรรมและการเลี้ยงปศุสัตว์ ในสมัยต่อมาพวกเฮบรูเผ่าต่าง ๆ ก็ได้ รวมกันเป็นปึกแผ่น มีลักษณะเป็นประเทศ มีกษัตริย์ปกครองคือ โซล (Saul) เป็นปฐมกษัตริย์ ประมาณ 1,000 ปีก่อน ค.ศ. ต่อมาเดวิค (David) ได้เป็นกษัตริย์และได้สถาปนาอาณาจักร ยูดาขึ้น ณ บริเวณที่ราบสูงยูเดีย และสมัยนี้เองที่พวกเฮบรูหรืออิสราเอลเรียกตัวเองว่า ผิว หรือ ยูดา เมื่อสิ้นสมัยของเดวิดก็ได้พระราชโอรสคือ โซโลมอน (Solomon) เป็นกษัตริย์ต่อมา โซโลมอน ได้โปรดให้สร้างโบสถ์ใหญ่ที่งดงามขึ้นที่กรุงเยรูซาเลม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประกอบพิธี ทางศาสนาของชาวเฮบรูสมัยของโซโลมอนเป็นสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเฮบรู หลังจากสมัยกษัตริย์โซโลมอนแล้ว ประเทศก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 รัฐเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจ อะไรมากกว่ากัน คือ รัฐยูดาห์ (Judah) และอิสราเอล (Israel) ทั้งสองรัฐต่างทำสงครามกัน อยู่เนืองๆ จนกระทั่งเมื่อราวศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตกาล รัฐทั้งสองตกเป็นเมืองขึ้นของแอสซีเรีย รัฐอิสราเอลถูกลดฐานะลงเป็นเมืองหนึ่งในอาณาจักร คงเหลือแต่รัฐยูดาห์ ต่อมาก็ตกอยู่ใต้ การยึดครองของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ และตีได้กรุงเยรูซาเลม ซึ่งเป็นเมืองหลวงไว้ได้ในราว 586 ปีก่อนคริสตกาล และกวาดต้อนเอาพวกเฮบรูหรือผิวไปเป็นเชลยเป็นจำนวนมาก ต่อมา กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียมีชัยชนะเหนือบาบิโลนเนียและเข้ามามีอำนาจเหนือยูดาห์ได้ปลดปล่อย ชาวเฮบรูให้เป็นอิสระ ชายเฮบรูบางส่วนได้กลับคืนสู่ปาเลสไตน์ ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองขึ้นของ เปอร์เซีย การที่ต้องสูญเสียเอกราชและต้องถูกจับกุมตัวไปเป็นเชลยในต่างแดนเป็นจำนวน มากมายนี้ มิได้ทำให้ผิวเสียความเป็นตัวของตัวเองอย่างไรเลย พวกยิวที่มาจากยูดาห์นั้นเมื่อ ไปหลบหลีกอยู่ประเทศอื่นนั้น มีเจตนาแรงกล้าที่จะคงความเป็นผิวตลอดไป ไม่ยอมปล่อย ตนเองแปรเปลี่ยนเป็นชาติอื่น เนื่องจากพวกยิวมีศรัทธาต่อพระคัมภีร์เก่าไม่ว่าพวกยิวจะถูก กวาดต้อนไปอยู่ประเทศใด หรืออพยพไปอยู่ในประเทศใด พระเจ้าของยิวนั้นมิได้ประทับอยู่แต่ วิหารที่กรุงเยรูซาเลมเท่านั้น แต่อยู่ในใจของพวกยิวทุกคนไม่ว่าพวกยิวจะไปถึงไหน พระเจ้าก็ ต้องตามไปที่นั่น ครั้งสมัยกรีกและโรมันเรืองอำนาจ ปาเลสไตน์ก็ตกอยู่ใต้การปกครองกรีก และโรมันตามลำดับชาวเฮบรูที่ตกอยู่ใต้การปกครองของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันในระยะ ศตวรรษที่หนึ่ง ในสมัยคริสตกาลได้ก่อการจลาจลขัดขืนอำนาจการปกครองของโรม ทางโรม จึงได้ยกกองทัพไปปราบปรามอย่างทารุณ ทหารโรมันได้ทำการประหัตประหารชาวยิวเป็น 296 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More