ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. การได้ปฐมสาวก 4 คน
การที่พระมุฮัมมัดจะเผยแผ่ศาสนาเรื่องพระเจ้าองค์เดียวขึ้นในเมกกะนั้นเป็นเรื่อง
ยากมาก เพราะคนเขาเคารพพระเจ้า 360 องค์ การที่จะทำให้คนเหล่านั้นทิ้งพระเจ้า 360 องค์
แล้วมานับถือพระอัลลอฮ์องค์เดียวแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นพระพระมุฮัมมัดจึงใช้วิธีเผยแผ่
อย่างค่อยๆ ทำ เริ่มจากคนใกล้ชิดคนแรกคือ คาดียะห์ ภรรยาของพระองค์เป็นปฐมสาวิกา
คนที่สองคือ เซอิด เป็นทาสและนับถือคริสต์ศาสนามาก่อน คนที่สามชื่อ อบูบักร์ เป็นพ่อค้า
อยู่ที่เมกกะ คนที่สี่ชื่อ โอมา หรือ อุมัร เป็นนักรบอย่างฉกาจฉกรรจ์ สาวกทั้ง 4 คนนี้จึง
นับเป็นปฐมสาวก
การประกาศศาสนาเป็นคนๆ เช่นนี้ ทำให้ได้ผลช้ามาก เวลา 3 ปี ได้สาวกเพียง
13 คน แต่ความพยายามอย่างไม่ลดละก็ประสบความสำเร็จ ได้สาวกจากคนรวยเป็นจำนวนมาก
มีชื่อเรียกกันว่า “อิสลาม” แปลว่า “พลีตนถวายพระเจ้า” ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่อของศาสนา
5. ทรงให้คำขวัญเรื่องศานติ
พระพระมุฮัมมัดได้ให้คำขวัญแก่สาวกไว้ทักทายกันว่า “ขอให้ศานติจงมีแก่ท่าน
แสดงว่าเดิมพระมุฮัมมัดประสงค์ให้ศาสนานี้ เป็นศาสนาศานติอย่างแท้จริง แต่เหตุการณ์ได้
บีบบังคับให้เปลี่ยนแปลงเป้าหมายไป เนื่องจากพระองค์และสาวกถูกรังแกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ที่รังแกข่มเหงคือ พวกที่นับถือพระเจ้า 360 องค์ โดยเรียกพระพระมุฮัมมัดและสาวกว่า “โมสเลม
(Moslem) ภาษาอาหรับแปลว่า ทรยศ” ต่อมาภายหลังพระพระมุฮัมมัดก็รับเอาคำนี้และ
กลายเป็นคำที่มีความหมายดีของมุสลิม
6. ไปปักหลักที่ยาตะเริ่ม
แม้ว่าการเผยแผ่ศาสนาจะถูกกีดกัน ขัดขวางและต่อต้านในเมืองเมกกะ แต่ใน
ตำบลใหญ่ตำบลหนึ่งชื่อ ตำบลยาตะเริ่มเป็นที่ที่ชาวยิวและชาวอาหรับอาศัยอยู่รวมกัน จึงมีการ
แก่งแย่งการทำมาหากิน เป็นศัตรูกันตลอดเวลา สำหรับชาวยิวนับถือศาสนายิวใฝ่ฝันว่าจะมี
เมสสิอาห์มาโปรด สำหรับชาวอาหรับนับถือพระเจ้า 360 องค์ มีชาวอาหรับพวกหนึ่งเดินทาง
เข้าไปในเมกกะมาพบพระมุฮัมมัดเข้า ได้ฟังคำสอนและมองเห็นความยิ่งใหญ่ของท่านผู้นี้ จึง
เกิดความคิดขึ้นว่า จะต้องรีบเอาตัวผู้นี้ไปถ้าช้าพวกยิวต้องมาเอาไปเป็นเมสสิอาห์แน่ จึงรีบ
382 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า