(We do not like to harm the trees. Whenever we can, we always make an
offering of to bacco to the trees before we cut them down. We never waste the wood, but
use all that we cut down. If we do not think of their feelings, all the other trees in the forest
would weep, and that would make our hearts sad, too.)
จากคำกล่าวที่ยกมานี้เราจะเห็นว่า พวกอเมริกันอินเดียนยกย่องธรรมชาติและเชื่อ
ว่าทุกๆ สิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติล้วนมีจิตวิญญาณแฝงอยู่ มนุษย์จึงควรใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่
สุดอีกด้วย
2. ความเชื่อในเรื่องสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ (Taboos)
ชาวอเมริกันอินเดียนโดยทั่ว ๆ ไปจะหลีกเลี่ยงสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ โดยปฏิบัติตามกฎ
ข้อห้ามที่ได้วางไว้ตั้งแต่บรรพบุรุษ กฎข้อห้ามเหล่านี้ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ การห้ามติดต่อ
กับหญิงที่มีระดู เพราะระดูของหญิงเป็นสิ่งที่มีพลังมาก หญิงเหล่านี้จะต้องถูกกันออกไปอยู่ใน
กระท่อมพิเศษต่างหาก จากกลุ่มเผ่าของตน พวกล่าสัตว์จะต้องหลีกหนีหญิงที่มีประจำเดือน
มิฉะนั้นพวกเขาจะต้องพบกับความอับโชค
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามอื่น ๆ เช่น การหลีกหนีศพคนตาย ถ้าคนที่เรารักตายไป
วิญญาณของพวกเขาจะวนเวียนอยู่ใกล้และพยายามชักชวนพวกญาติมิตรที่สนิทให้ไปอยู่กับ
พวกเขา พวกนี้ชอบหลอกหลอนตลอดเวลาจึงทำให้เราอาจฝันร้ายได้ ดังนั้นเมื่อมีคนตายจึง
ต้องรีบฝังหรือเผาทันที เพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณกลับมาได้อีกและห้ามเอ่ยชื่อคนตายด้วย พวก
สัปเหร่อ ที่ทำศพได้กลายเป็นบุคคลที่ไม่สะอาดสำหรับสังคมของเผ่านั้นๆ สัปเหร่อจึงมีชีวิตที่
ถูกแยกออกต่างหากจากเผ่า และถูกห้ามกินอาหารร่วมกับคนอื่นๆ ในเผ่านั้นๆ
3. ความเชื่อในประเพณีและพิธีกรรม
พวกอเมริกันอินเดียนส่วนมากเชื่อกันว่าการทำพิธีกรรมต่าง ๆ นั้น มีส่วนช่วยให้
เขาสัมฤทธิ์ผล พิธีกรรมจึงเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ
วิญญาณโลก (Spirit World) ให้เป็นไปด้วยดี พิธีกรรมที่นิยมทำกันมากที่สุดก็คือ การเต้นรำ
การเต้นรำเป็นวิธีหนึ่งที่มนุษย์ใช้ติดต่อกับวิญญาณโลกในวาระต่าง ๆ เช่น ก่อนการล่าสัตว์ ก่อน
เพาะปลูก ก่อนการทำสงคราม และเมื่อมีคนตาย พวกอเมริกันอินเดียนจะนิยมตีกลอง และสัน
ลูกกระพรวนเป็นจังหวะทำนองที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมีไม่กี่จังหวะดนตรีจึงบรรเลงเพื่อปลุกวิญญาณ
หรือพลังที่มีอยู่ในมนุษย์ให้ตื่นขึ้น และพร้อมที่จะใช้พลังนั้นๆ กระทำอะไรบางอย่าง
36 DOU ศาสนศึกษา