ข้อความต้นฉบับในหน้า
ฟังพระองค์ในกาลต่อมาพูดว่า “พระองค์เป็นนักพูดที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงพูดความจริง” มา
เป็นเวลานานจนกลายมาเป็นสาวกของพระองค์เป็นจำนวนมาก
พระมหาวีระทรงตั้งศาสนาใหม่เรียกว่า ศาสนาเชน ศาสนาของผู้ชนะ อันนี้เป็น
ประเภทแห่งผู้ชนะแบบใหม่ เพราะพวกเชนดังที่สาวกของศาสนานี้เรียกกัน ไม่ต้องการออกไป
และเอาชนะผู้อื่น เขาเพียงแต่ต้องการเอาชนะตนเอง ศาสดาของพวกเขาสอนพวกเขาว่า ความ
หลุดพ้นมีอยู่ภายในตัวท่านเอง
เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระมหาวีระเริ่มต้นด้วยการยอมรับกฎแห่งกรรม
ของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ความดีต้องมาจากกรรมดี และความชั่วต้องมาจากกรรมชั่ว
เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระมหาวีระทรงยอมรับความเชื่อในสังสารวัฏ
และความหลุดพ้นขั้นสูงสุดในนิรฌานหรือโมกษะ
แต่มาถึงตอนนี้ ทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหาวีระทรงมีทัศนะขัดแย้งกับ
ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ทั้งสองพระองค์ทรงปฏิเสธความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของระบบ
วรรณะ การหลุดพ้นด้วยการอ้อนวอน และความจริงสูงสุดของพระเวท
ในจุดนี้ผู้ปฏิรูปศาสนาสององค์ก็แตกต่างกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงปฏิบัติตาม
มัชฌิมาปฏิปทา พระมหาวีระกลับหันไปหาอัตตกิลมถานุโยคอย่างจริงจัง
แม้การประกาศศาสนาของพระมหาวีระจะมีบางอย่างที่ไม่ใช่ของใหม่เพราะมีอยู่แล้ว
ในศาสนาพราหมณ์ หรือมีผู้สอนมาก่อนหน้าพระมหาวีระก็ตาม แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่ใหม่
และรัดกุมกว่าเดิม อีกทั้งความเป็นนักเทศน์นักปาฐกถาที่สามารถยิ่ง ทำให้ผู้ฟังทั้งหลายเห็น
จริงและเกิดศรัทธาได้ จึงมีคนเชื่อฟังยอมเป็นสาวกมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดพระมหาวีระ
สามารถจัดระบบคณะภิกษุ คณะภิกษุณี ขึ้นเป็นศาสนาได้ สาวกทั้งหลายมีศรัทธาเชื่อว่า
พระมหาวีระเป็นพระชินะผู้ชนะ และเป็นผู้บรรลุโมกษะความหลุดพ้นจากพันธนาการ ละกิเลส
เป็นต้น ทั้งเป็นผู้เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาละปาณาติบาตได้ในสรรพสัตว์ รุกขชาติ และติณชาติ
ทั้งปวง ยิ่งกว่านั้นสาวกทั้งหลายต่างก็ยอมรับว่าพระมหาวีระเป็นศาสดาองค์สุดท้าย และเป็น
จันทร
ศาสดาที่สำคัญที่สุดในศาสนาเชน เพราะตามความเชื่อถือของศาสนิกชนเชนแล้วมีศาสดา
ก่อนพระมหาวีระ 23 องค์ คือ ฤษภา อชิต สัมภวะ อภินันทะ สุมาตี ปัทมประภา สุภาสวา
ประภา บุษปทันตะ สีตลา เศรยานส วสปุชวะ วิมลา อนันตะ ธรรม สันติ คุนธุ จรา มัลติ มุนี
สุวรตะ นมิ เนมิ และปารศวนาถ
ศาสนาเชน
DOU 103