เกษตรกรรมและศาสนาในยุคโบราณ DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 49
หน้าที่ 49 / 481

สรุปเนื้อหา

ในสมัยโบราณ เกษตรกรรมเป็นวิถีชีวิตที่สำคัญของมนุษย์ โดยมีการสังเกตธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงทางดาราศาสตร์ที่มีผลต่อการเก็บเกี่ยว เมื่อสังคมเริ่มมีการตั้งถิ่นฐาน จึงเกิดการพัฒนาทางศาสนาและความเชื่อ โดยเฉพาะการวางระบบเทพปกรณัมที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์กับธรรมชาติ สุดท้ายยังมีการขุดพบหลุมศพขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงระบอบสังคมที่มีผู้นำและความเชื่อในการมีชีวิตหลังความตาย สำหรับชาวอเมริกันอินเดียน มีความเชื่อในวิญญาณและพลังจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในธรรมชาติที่สามารถให้คุณหรือโทษแก่มนุษย์ ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมและการค้นหาสิ่งสูงส่งจากธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ

หัวข้อประเด็น

-เกษตรกรรมในยุคโบราณ
-ความสำคัญของธรรมชาติ
-เทพปกรณัมและศาสนา
-หลุมศพและความเชื่อเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย
-ชาวอเมริกันอินเดียนและความเชื่อทางศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เกษตรกรรม อันเป็นวิถีชีวิตของคนสมัยนั้น ในสมัยนี้มนุษย์รู้จักปลูกพืช ทำนา ทำไร่ และเลี้ยง สัตว์ ทำให้รู้จักตั้งหลักแหล่งและสร้างบ้าน แปลงเมืองจึงเกิดความจำเป็นที่จะทำให้พื้นที่เพาะ ปลูกมีความสมบูรณ์อยู่เสมอ มนุษย์ในสมัยนี้รู้จักสังเกตความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เป็น ไปอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเกิดน้ำขึ้นน้ำลง การเกิดข้างขึ้นข้างแรมและการเคลื่อนไหวของ ดวงดาวล้วนมีผลต่อการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ การพัฒนาทางศาสนาของมนุษย์ในยุคนี้ จึงมีพื้นฐานอยู่บนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเท่าๆ กับความอุดมสมบูรณ์ของมนุษย์และ สัตว์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดแนวคิดในเรื่องเทพปกรณัม ซึ่งมีที่มาจากความเชื่อในพลังอัน ลึกลับของธรรมชาติแล้วให้ภาพลักษณ์เป็นเทพต่าง ๆ แทนพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว และฤดูต่างๆ จากการขุดค้นพบหลุมศพต่าง ๆ โดยนักโบราณคดีมีข้อน่าสังเกต คือหลุมศพเหล่านั้นมัก จะมีขนาดใหญ่และฝังคนหลายๆ คนรวม ๆ กันไป จากการขุดพบกระดูกของผู้ชาย ผู้หญิง สัตว์ รวมทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ ตลอดจนอาวุธและเครื่องประดับ ทำให้สันนิษฐานกันว่าหลุมศพ ขนาดใหญ่เหล่านี้น่าจะเป็นหลุมของคนในระดับชั้นผู้นำ ส่วนกระดูกผู้หญิงนั้นน่าจะเป็น กระดูกของภรรยา และพวกคนใช้ตลอดจนสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เคยเป็นเจ้าของหรือเป็นสัตว์เลี้ยง ตัวโปรด การฝังสิ่งเหล่านี้รวมกันในที่เดียวกัน มีจุดประสงค์เพื่อจะได้ตามไปรับใช้ในโลกหน้า นอกจากนี้ในยุคหินใหม่ยังมีกองหินขนาดโตหลายก้อนกองรวมกัน ซึ่งลักษณะเช่นนี้ มัก จะพบหลายแห่งทั่วโลก เช่น กองหินที่สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ในประเทศอังกฤษและกอง หินที่บริตตานี (Brittamy) ในประเทศฝรั่งเศส กองหินเหล่านี้มักจะถูกนำมาจากที่ไกลๆ ซึ่ง ยากแก่การขนส่ง แสดงว่าผู้นำมากองไว้ในบริเวณเหล่านี้ เพื่อการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และอ้อนวอนร้องขอต่อพลังอันศักดิ์สิทธิ์จะได้ประทานในสิ่งที่ตนปรารถนา 2.2.4 ศาสนาและความเชื่อของพวกอเมริกันอินเดียน ชาวอเมริกันอินเดียนเป็นพวกพื้นเมืองเดิมที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกา ซึ่งมีหลายเผ่าพันธุ์ ทำให้เกิดความแตกต่างทั้งในด้านการแต่งกายและภาษาพูด ชาวอเมริกันอินเดียนเหล่านี้มี ความเชื่อทางด้านศาสนา ที่มีลักษณะร่วมกันดังนี้ คือ 1. ความเชื่อในเรื่องวิญญาณ (Animism) ชาวอเมริกันอินเดียนโดยทั่ว ๆ ไป ให้ความเคารพในธรรมชาติและเชื่อว่าธรรมชาติ มีพลังอำนาจที่อาจให้คุณหรือโทษแก่มนุษย์ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจในเคล็ดลับของการใช้ 1 Hopfe, Lewis M. Religions of the World. 3rd .ed, 1983 หน้า 36-38. 34 DOU ศาสนศึกษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More