ข้อความต้นฉบับในหน้า
นับถือในธรรมชาติเช่นกัน ในพระวินัยได้มีข้อห้ามภิกษุสงฆ์ตัดต้นไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะต้นไม้
ใหญ่ถึงกับปรับอาบัติภิกษุสงฆ์นั้นๆ ศาสดาของศาสนาส่วนมากให้ความสำคัญแก่ธรรมชาติ
เป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ความนับถือธรรมชาติในแง่ของการเห็นความสำคัญและ
คุณค่าได้ถูกเปลี่ยนไปโดยศาสนิกชนรุ่นหลัง ทำให้เกิดเป็นความหลง ความงมงาย ปะปนกับ
ความเชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณ ทำให้ศาสนาเหล่านี้มีลักษณะทางความคิดของศาสนาพื้นฐาน
ดั้งเดิมแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน
2.1.3 การมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ (Magic)
ไสยศาสตร์จัดเป็นความเชื่อเก่าแก่ของมนุษยชาตินับตั้งแต่เริ่มมีศาสนา เป็นสิ่งที่คู่กันมา
กับอารมณ์อันปราศจากเหตุผลของมนุษย์ ซึ่งเป็นความรู้สึกล้วนๆ ตามธรรมชาติของสัตว์โลก
และเป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะบังคับบางสิ่งบางอย่างให้เป็นไปตามเป้าหมายของตน
โดยอาศัยอำนาจอันลึกลับเหนือธรรมชาตินั้น
ท่านพุทธทาสภิกขุ” ได้กล่าวถึงไสยศาสตร์ว่า ไสยศาสตร์เป็นวิธีการพ้นทุกข์ของมนุษย์ใน
ระดับหนึ่ง เมื่อครั้งยังขาดปัญญาในการเข้าใจความจริงของโลกและชีวิต ไสยศาสตร์มาจากคำว่า
“ไสยะ” แปลว่า “นอนหลับ” ซึ่งตรงข้ามกับ “พุทธะ” แปลว่า “ตื่นอยู่” ไสยศาสตร์จึงมี
รากฐานอยู่บนความไม่รู้ด้วยปัญญาโดยอาศัยความเชื่อเป็นพื้นฐาน จึงเหมือนกับเป็นความรู้
ของคนหลับ กล่าวคือ หลับด้วยโมหะและหลับด้วยอวิชชา บุคคลใดที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือมี
สัมพันธ์กับศาสตร์ชนิดนี้ จะทำให้หลงติดในวัตถุธรรม กระทำทุกอย่างสนองอารมณ์ความ
ต้องการของตน จึงไม่ใช่ทางหลุดพ้นกิเลสและตัณหา สำหรับพุทธศาสตร์เป็นศาสตร์ที่ทำให้
บุคคลถอนตนออกมาจากความยึดติดในสิ่งทั้งปวง โดยใช้ปัญญาคิดพิจารณาหาเหตุผลในการ
ปฏิบัติทุกขั้นตอนจนบรรลุถึงซึ่งนิพพานอันเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ทำให้บุคคลเป็นอิสระจากสิ่ง
ทั้งหลายทั้งปวงในโลก บุคคลที่สามารถบรรลุได้จนถึงขั้นนี้จึงได้ชื่อว่า “พุทธะ” หมายถึง ผู้ตื่น
จากกิเลส ตัณหาและอวิชชา มีปัญญาเห็นแจ้งในสิ่งทั้งหลายว่า ไม่มีสิ่งใดน่าเอา ไม่มีสิ่งใดน่าเป็น
บุคคลผู้เป็นพุทธะ จึงเป็นผู้ที่พ้นจากกระแสโลก หมดสิ้นซึ่งความทุกข์อย่างแท้จริง ซึ่ง
ไสยศาสตร์นั้นมี 2 แบบ คือ “ไสยดำ” หรือ “ไสยศาสตร์” เป็นไสยศาสตร์ฝ่ายดำที่ให้โทษแก่
มนุษย์ ทำให้เกิดความเสียหาย ความเดือดเนื้อร้อนใจกับมนุษย์ ส่วนแบบ “ไสยขาว” หรือ
“ไสยศาสตร์ขาว” เป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายที่ทำคุณให้กับมนุษย์อีกด้วยเช่นกัน
* พุทธทาสภิกขุ, พุทธศาสตร์กับไสยศาสตร์, 2526 หน้า 7 -10.
24 DOU ศาสนศึกษา