ความเข้าใจในนิพพานตามพระพุทธศาสนา DF 404 ศาสนศึกษา หน้า 173
หน้าที่ 173 / 481

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความแตกต่างของนิพพาน 2 ประการคือ สอุปาทิเสสนิพพานและอนุปาทิเสสนิพพาน พร้อมทั้งการดำรงอยู่ของอินทรีย์ 5 ของภิกษุที่หลุดพ้นจากกิเลส โดยพระอรหันต์จะมีสุขทุกข์อยู่บ้างในขณะที่ยังมีชีวิต แต่เมื่อสิ้นสุดชีวิตก็เข้าถึงอนุปาทิเสสนิพพานอย่างแท้จริง นิพพานซึ่งเป็นภาวะสูงสุดที่มีอยู่จริง รอคอยผู้ดับกิเลสได้หมดเพื่อเข้าไปถึง และมีเหตุผลตามพระพุทธพจน์ที่ยืนยันความมีอยู่ของนิพพานในคัมภีร์ต่างๆ ของพระพุทธศาสนา เช่น ขุททกนิกาย, อุทาน และอิติวุตตกะ

หัวข้อประเด็น

- นิพพาน
- สอุปาทิเสสนิพพาน
- อนุปาทิเสสนิพพาน
- กิเลส
- พระอรหันต์
- ธรรมวินัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นยังได้รับอารมณ์ทั้งที่น่าพึงใจและไม่น่าพึงใจ ยังเสวยสุขและ ทุกข์อยู่เพราะความที่อินทรีย์ 5 เหล่าใดยังไม่เสื่อมสลาย อินทรีย์ 5 เหล่านั้นของเธอยัง ตั้งอยู่นั่นเทียว ภิกษุทั้งหลาย ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่ง โมหะของภิกษุนั้น นี้เราเรียกว่าสอุปาทิเสสนิพพาน ภิกษุทั้งหลายก็อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพอยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำ เสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพหมดสิ้นแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ เวทนาทั้งปวงในอัตภาพนี้ของภิกษุนั้นเป็นสภาพอันกิเลส ทั้งหลายมีตัณหา เป็นต้น ให้เพลิดเพลินมิได้แล้ว จัก (ดับ) เย็น ภิกษุทั้งหลาย นี้เรา เรียกว่าอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพาน 2 ประการนี้แล ข้อความพระพุทธพจน์ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างสอุปาทิ เสสนิพพานกับอนุปาทิเสสนิพพานเมื่อบุคคลดับกิเลสคือราคะโทสะ และโมหะได้ก็ชื่อว่าได้เข้า ถึงสอุปาทิเสสนิพพาน พระพุทธศาสนาเรียกบุคคลผู้เข้าถึงนิพพานชนิดนี้ว่าพระอรหันต์ เมื่อ ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ย่อมได้รับอารมณ์ทั้งที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ ยังเสวยทั้งสุขเวทนาและ ทุกขเวทนา เพราะอินทรีย์ 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายของท่านยังทำงานได้อย่างปกติเช่น เดียวกับของบุคคลทั่วไป แต่เนื่องจากท่านละกิเลสได้เด็ดขาดสิ้นเชิงแล้วเมื่อกระทบอารมณ์ และเวทนาอย่างใดอารมณ์และเวทนาอย่างนั้นย่อมไม่สามารถทำให้จิตของท่านหวั่นไหวไปตาม คือไม่เกิดความยินดียินร้ายเพราะอารมณ์และเวทนานั้นๆ เมื่อชีวิตของพระอรหันต์สิ้นสุดลง ก็ได้ชื่อว่าเข้าถึงอนุปาทิเสสนิพพาน เวทนาทั้งปวงย่อมดับสิ้นพร้อมกับการสิ้นสุดของชีวิต 3. ความมีอยู่จริงของภาวะที่เรียกว่า นิพพาน ตามคำสอนของพระพุทธศาสนา ภาวะสูงสุดที่เรียกว่านิพพานที่ผู้ปรารถนาความ หลุดพ้นจากทุกข์โดยสิ้นเชิงจึงมุ่งเข้าถึงนั้น เป็นภาวะที่มีอยู่จริง และผู้ดับกิเลสได้หมดแล้วเข้า ถึงได้จริง หลักฐานเรื่องนี้มีพระพุทธพจน์ที่ปรากฏอยู่ในขุททกนิกาย อุทาน และอิติวุตตกะ ตรัส ยืนยันไว้ว่า อตฺถิ ภิกฺขเว ตทายตน์ ยตฺถ เนว ปฐวีน อาโป น เตโช น วาโย น อากาสานัญจายตน์ น วิญญาณญจายตนํ น อากิญฺจญฺญายตน์ น เนวสนาสัญญายตน์ นาย โลโก น ปรโลโก น เ อุโภ จนฺทิมสุริยา ตมห์ ภิกฺขเว เนว อาคติ วทามิ น ค น จิ น จุติ น อุปปตฺติ อปฺปติฏฐ์ อปปวตฺต์ อนารมฺมณเมว ต์ เสวนฺโต ทุกขสสาติ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม 25, 2539 หน้า 158. 158 DOU ศ า ส น ศึกษา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More