ข้อความต้นฉบับในหน้า
บางคนก็ขอบวช แต่สาวกเหล่านั้นยังให้บวชเองไม่ได้ จึงต้องพากุลบุตรเหล่านั้นมาเฝ้า
พระพุทธเจ้าเพื่อให้พระองค์บวชให้เอง ทำให้ได้รับความลำบากในการเดินทางมาก ฉะนั้น
พระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาตให้สาวกเหล่านั้นอุปสมบท กุลบุตรได้โดยโกนผมและหนวดเครา
เสียก่อน แล้วจึงให้นุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาด นั่งคุกเข่าพนมมือกราบภิกษุแล้วเปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้า
ขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นสรณะ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ”
รวม 3 ครั้ง การอุปสมบทนี้เรียกว่า “ติสรณคมนูปสัมปทา” คือ อุปสมบทโดยวิธีให้ปฏิญญาณ
ตนเป็นผู้ถึงไตรสรณคมน์
ตั้งแต่พรรษาที่ 11 ที่ทรงได้สาวกเป็นพระอรหันต์จำนวน 60 องค์แล้ว พระพุทธองค์
ก็ได้อาศัยพระมหากรุณาคุณทำการประกาศเผยแพร่คำสั่งสอน จนได้สาวกเป็นภิกษุ ภิกษุณี
อุบาสก อุบาสิกา เป็นพุทธบริษัท 4 ขึ้นอย่างแพร่หลายและมั่นคง การประกาศพระศาสนา
ของพระองค์ได้ดำเนินการไปอย่างเข้มแข็ง โดยการจาริกไปยังหมู่บ้านชนบทน้อยใหญ่ใน
แว่นแคว้นต่างๆ ทั่วชมพูทวีปตลอดเวลาอีก 44 พรรษา คือ พรรษาที่ 2-45 ดังนี้
พรรษาที่ 2 เสด็จไปยังเสนานิคมในตำบลอุรุเวลา ในระหว่างทางได้สาวกกลุ่ม
ภัททวัคคีย์ 30 คน และที่ตำบลอุรุเวลาได้ชฏิล 3 พี่น้อง คือ อุรุเวลกัสสปะ นทีกัสสปะ คยากัสสปะ
กับศิษย์ 1,000 คน เทศนาอาทิตยาปริยายสูตรที่คยาสีสะ เสด็จไปยังราชคฤห์แห่งแคว้นมคธ
กษัตริย์พิมพิสารทรงถวายสวนเวฬุวันแด่คณะสงฆ์ ได้พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ
เป็นพระอัครสาวก อีก 2 เดือนต่อมาเสด็จไปยังกบิลพัสดุ์ ทรงพำนักที่นิโครธาราม ได้สาวก
มากมาย เช่น นันทะ ราหุล อานนท์ เทวทัต และพระญาติอื่น ๆ อนาถปิณฑิกะเศรษฐีอาราธนา
ไปยังกรุงสาวัตถีแห่งแคว้นโกศล ถวายสวนเชตวันแด่คณะสงฆ์ ทรงจำพรรษาที่นี่
พรรษาที่ 3 นางวิสาขาถวายบุพพาราม ณ กรุงสาวัตถี ทรงจำพรรษาที่นี่
พรรษาที่ 4 ทรงจำพรรษาที่เวฬุวัน ณ กรุงราชคฤห์แห่งแคว้นมคธ
พรรษาที่ 5 โปรดพระราชบิดาจนบรรลุอรหัตตผล ทรงไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ระหว่าง พระญาติฝ่ายสักกะกับพระญาติฝ่ายโกลิยะเกี่ยวกับการใช้น้ำในแม่น้ำโรหินี ทรง
บรรพชาอุปสมบทพระนางปชาบดีโคตมี และคณะเป็นภิกษุณี
บรรพต
1
พรรษาที่ 6 ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในกรุงสาวัตถี ทรงจำพรรษาบนภูเขามังก
พรรษาที่ 7 ทรงเทศนาและจำพรรษาที่กรุงสาวัตถี ระหว่างจำพรรษาเสด็จขึ้นไป
พิทูร มลิวัลย์ และไสว มาลาทอง, พุทธกิจ 45 พรรษา, 2531 หน้า 21-23
ศาสนา พุทธ
DOU 139