ข้อความต้นฉบับในหน้า
เชิญให้พระมุฮัมมัดไปอยู่ที่ตำบลยาตะเริ่ม ขอเวลาไปเตรียมคน 1 ปีจะมารับตัว เมื่อครบเวลา
1 ปี ชาวอาหรับจำนวน 73 คน ลอบเข้าเมืองเมกกะเวลากลางคืนเข้าพบพระมุฮัมมัดแล้วพา
พระมุฮัมมัดและสาวกเดินทางออกจากเมกกะ โดยให้สาวกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ส่วนตัวเอง
กับสาวกคู่ใจคือ อบูบักร์เดินทางระวังหลัง เมื่อพระมุฮัมมัดและสาวกเดินทางถึงหมู่บ้าน
ยาตะเริ่มแล้ว ได้รับการต้อนรับทั้งจากชาวอาหรับและชาวยิว พระองค์นั่งอยู่หลังอูฐปล่อย
บังเหียนอูฐ แล้วบอกว่าอูฐพาไปที่ไหนจะพักที่นั่น อูฐก็เดินไปคนจำนวนมากก็เดินตามเรื่อยไป
พอไปถึงต้นอินทผลัม อูฐก็หยุดพระมุฮัมมัดจึงประกาศว่าจะพักที่นั่นขอให้ประชาชน
สร้างโบสถ์ให้
7. การประดิษฐานศาสนาอิสลาม
โบสถ์หลังแรกของศาสนาอิสลามจึงได้เกิดขึ้น ณ ที่นี้ ศาสนาอิสลามได้ประดิษฐาน
ขึ้น ณ ที่นี้ในปี พ.ศ. 1165 เป็นการเริ่มนับศักราชอิสลามเวลานี้พระมุฮัมมัดมีอายุได้ 52 ปี
ตำบลยาตะเริ่มได้กลายเป็นเมืองใหญ่ขึ้นเรียกว่า “เมดินา” (มะดีนะฮ์) แปลว่า มุนี การที่
พระมุฮัมมัดเดินทางออกจากเมกกะไปเมดินานี้เรียกว่า “เฮยิรา” พระมุฮัมมัดนอกจากเป็น
ศาสดาแล้ว ยังเป็นเจ้าครองเมืองหรือกษัตริย์ด้วย พระองค์ทรงมีฐานะอย่างกษัตริย์ที่แท้จริง และ
ด้วยเหตุผลนี้เองคัมภีร์ในศาสนาอิสลามคือ “อัลกรุอาน” จึงมีลักษณะเป็นกฎหมายอยู่ในตัว
คัมภีร์โกหร่านไม่ได้เป็นเฉพาะบัญญัติทางศาสนา แต่เป็นประมวลกฎหมายแพ่งวางข้อบัญญัติ
เกี่ยวกับสังคม เช่น เรื่องครอบครัวและมรดก เป็นต้น
คำสอนและพระบัญญัตินั้น พระมุฮัมมัดทรงบอกให้คนจดไว้บนใบลานบ้าง บน
แผ่นหนังบ้าง สลักบนแผ่นไม้ แผ่นหิน และบางที่สลักไว้บนหน้าอกของตน บางทีก็เป็นคาถา
กวีนิพนธ์ที่ไพเราะที่เป็นคำร้อยแก้วที่เป็นภาษาที่ดี ภาษาที่สูง และด้วยเหตุนี้ สาวกทั้งหลาย
จึงเชื่อมั่นว่า คำของพระมุฮัมมัดนั้นเป็นคำของพระจริงๆ คนไม่เชื่อว่พระมุฮัมมัดจะประพันธ์
คำพูดหรือบัญญัติอย่างนั้น เพราะท่านไม่รู้หนังสือ เขียนหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ออก แต่คำสอน
และบทบัญญัติเป็นของสูงของไพเราะมีความหมายลึกซึ้ง ประชาชนจึงเชื่อกันว่าพระมุฮัมมัด
ต้องได้ยินได้ฟังมาจากพระเจ้า
พระมุฮัมมัดเองก็ทรงยืนยันอยู่เสมอว่า คำสอนและข้อบัญญัติทั้งหลายนั้นพระองค์
ได้ยินได้ฟังมาจากพระเจ้า พระองค์ส่งจิตของพระองค์ขึ้นไปเฝ้าพระเจ้าด้วยวิธีการเข้าฌาน
นอกจากจะได้เฝ้าพระเจ้าแล้ว ยังได้ติดต่อกับเทวดาทั้งหลาย ที่ติดต่อกันเสมอนั้นคือ
เซนต์คาเบรียล เทพของคริสต์ศาสนา
ศ า ส น า อ ส ล า ม DOU 383