ข้อความต้นฉบับในหน้า
5.4.5
มรรคมีองค์ 8'
1. สัมมาทิฐิ : ความเห็นชอบ มีลักษณะเด่นๆ ดังนี้
1) ความเข้าใจชัดว่าอะไรคือทุกข์ อะไรคือสาเหตุแห่งทุกข์ อะไรคือความดับทุกข์
และอะไรคือมรรควิธีหรือมรรคปฏิบัติที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์
2) ความเข้าใจว่าอะไรคือกุศลกรรม อะไรคืออกุศลกรรม
3) ความเข้าใจหลักปฏิจจสมุปบาท คือกระบวนการเกิดขึ้นและดับแห่งทุกข์
โดยปัจจัยอาศัยกัน
2. สัมมาสังกัปปะ : ความดำริชอบ มีลักษณะเด่นๆ 3 ประการ ต่อไปนี้
1) ความคิดที่ปลอดโปร่ง ไม่หมกมุ่นพัวพันอยู่ในสิ่งที่สนองความอยาก อันได้แก่
รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เรียกว่า “กามคุณ” รวมถึงความคิดเสียสละ
ปราศจากการครุ่นคิดหาผลประโยชน์ใส่ตัว (เนกขัมมวิตก)
2) ความคิดที่ไม่พยาบาทมุ่งร้ายใคร เต็มไปด้วยความเมตตากรุณา (อพยา
ปาทวิตก)
3) ความคิดไม่เบียดเบียนใคร ไม่คิดทำร้าย หรือทำลายใคร (อวิหิงสาวิตก)
3. สัมมาวาจา : การเจรจาชอบ มีลักษณะดังนี้
1) งดเว้นจากการพูดเท็จ (มุสาวาท)
2) งดเว้นจากการพูดส่อเสียด ยุยงให้เกิดความแตกแยก (ปิสุณวาจา)
3) งดเว้นจากการพูดหยาบคาย (ผรุสวาท)
4) งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ คือพูดสิ่งไร้สาระ (สัมผัปปลาปะ)
4. สัมมากัมมันตะ : การทำงานชอบ มีลักษณะดังนี้
1) งดเว้นจากการทำลายชีวิตคนอื่นและสัตว์อื่น (ปาณาติบาต)
2) งดเว้นจากการขโมยของของคนอื่น (อทินนาทาน)
3) งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม (กาเมสุมิจฉาจาร)
1
หน้า 348.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม 10. มรรคมีองค์8, 2539
154 DOU ศ า ส น ศึ ก ษ า