ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
อาศัยมานะเพื่อละมานะ
៩១
เป็นพระอรหันต์ จึงเข้าดูแลอุปัฏฐากรับใช้ตลอดมา
วันหนึ่ง นายพรานจะต้องเข้าไปล่าสัตว์ในป่าลึกเป็น
เวลาหลายวัน จึงให้ลูกสาวคอยจัดเตรียมเรื่องโภชนาหารถวาย
แทน ธิดาสาวของนายพรานซึ่งมีชื่อว่าจาปากุมารี ได้จัดแจง
อาหารถวายและคอยปฏิบัติรับใช้ตามที่บิดาสั่ง แต่ครั้น
อุปกาชีวกเห็นโฉมงามกุมารีเท่านั้น ราคะกิเลสที่ฝังแน่นอยู่
ในขันธสันดานพลันฟุ้งขึ้น เพราะความพอใจยินดีในสาวน้อย
จึงได้แต่ถือเอาโภชนาหารกลับไปนอนพร่ำเพ้อคิดถึงนางเป็นที่สุด
จนล่วงไป ๗ วัน พรานเนื้อกลับมาถึงบ้าน ได้ถามหา
พระอรหันต์ของตน ธิดาสาวตอบว่า “ตอนพ่อไม่อยู่ พระคุณเจ้า
มาที่บ้านเราเพียงครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย” นายพราน
ฟังดังนั้นก็ร้อนใจ รีบเดินมุ่งหน้าไปยังบรรณศาลาของอุปกาชีวก
เห็นท่านนอนทอดถอนใจหมดอาลัยในชีวิต จึงถามถึงอาพาธที่
เกิดขึ้น อุปกาชีวกใคร่จะปิดบังความในใจ แต่เมื่อถูกรบเร้า
หนักเข้า ด้วยความที่ตนเป็นผู้มีศีลไม่เคยโกหก จึงตอบไปตาม
ตรงว่า “เราไม่ได้อาพาธอะไร แต่เรามีความรักใคร่ในธิดาของท่าน
ถ้าไม่ได้สมดังใจปรารถนา เราคงจะตายอยู่ ณ ที่นี้
พรานไพรฟังดังนั้น จึงคิดแก้ไขสถานการณ์ผ่อนหนักให้
เป็นเบา ด้วยการยกลูกสาวให้ อุปกาชีวกจึงสละเพศนักบวชมา
ครองเรือน แต่ด้วยความที่ยังผูกพันอาลัยในเพศนักบวช จึงยัง