ข้อความต้นฉบับในหน้า
ละความโกรธกันเถอะ
๓๑๘
จะจับแต่งงาน แต่ทั้งสองท่านก็ไม่เคยมีความฟุ้งซ่านด้วยราคะ
ขึ้นชื่อว่าเมถุนธรรมไม่เคยเกิดแม้ในความฝัน ทั้งสองเป็นผู้มีศีล
บริสุทธิ์ประดุจนักพรตอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
ต่อมามารดาบิดาถึงแก่กรรม พระโพธิสัตว์ได้ปรึกษากับ
ฝ่ายหญิงว่า “น้องหญิง เธอจงรับทรัพย์ ๘๐ โกฏินี้ไว้เลี้ยงชีพให้
เป็นสุขเถิด ฉันไม่ต้องการทรัพย์สมบัติเหล่านี้เลย ตั้งแต่นี้ไป
ฉันจักเข้าป่าหิมพานต์ไปบวชเป็นฤาษี เพื่อแสวงหาที่พึ่งที่ระลึก
อันแท้จริงให้กับตนเอง ฉันปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากความทุกข์
ทั้งปวง” ฝ่ายหญิงถามว่า “ก็การบรรพชา สมควรเฉพาะพวก
บุรุษเท่านั้นหรือ” เมื่อรู้ว่า แม้หญิงก็สามารถบำเพ็ญเนกขัมม
บารมีออกบวชเป็นดาบสินีได้ นางจึงบอกว่า “ถ้าเช่นนั้น ฉันจัก
ไม่รับก้อนเขฬะที่พี่ถมทิ้งแล้ว แม้ฉันก็ไม่มีความปรารถนาสมบัติ
ที่กองท่วมหัวเหล่านี้เลย ฉันเองก็ปรารถนาจะออกบวชเช่นกัน”
ก่อนออกบวช ทั้งสองท่านร่วมกันบ่าเพ็ญมหาทานบารมี
ด้วยการนำสมบัติที่มีอยู่ทั้งหมด ๑๖๐ โกฏิออกแจกจ่ายให้กับ
ยาจกวณิพกพเนจร ทั้งคู่แจกจ่ายอยู่หลายวัน สมบัติก็ยังไม่หมด
ครั้นวันที่ ๗ จึงบอกทุกคนว่า “ใครอยากขนสิ่งใดไป ก็ให้ขนไป
ตามความปรารถนาเถิด” จากนั้นทั้งสองได้เดินทางไปบวชเป็น
ฤๅษี บำเพ็ญเนกขัมมบารมีอยู่ในป่าเป็นเวลานาน ต่อมาก็ได้พา