ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรร
โกรธกันไปทำไม
៤៤២
ความโกรธเข้าครอบงำแล้ว ย่อมไม่รับรู้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น และ
หากปล่อยให้ความโกรธครอบงำา
ความมืดบอดก็ย่อมเกิดขึ้น
กับบุคคลนั้น ยิ่งหากความโกรธครอบงำบ่อยๆ เข้า จิตใจก็ยิ่ง
ขุ่นมัวไม่สามารถขจัดโทสะให้ออกไปได้ ชีวิตย่อมมีแต่ความ
รุ่มร้อนมืดมนอนธกาล ไม่มีความสุขกายสบายใจ เมื่อเราโกรธ
คนอื่นก่อน ผู้ที่ร้อนใจคนแรกคือตัวเรา เพราะเราจะทุกข์
ทั้งกายและใจ ไม่มีความสุขสบายเลย เมื่อโกรธจนเป็นนิสัย
เป็นอาจิณณกรรม แม้ก่อนละโลกก็ยังมีความโกรธฝังแน่นอยู่ใน
จิตใจเช่นนี้แล้ว ย่อมจะมีทุคติภูมิเป็นที่ไปอย่างแน่นอน
ผู้มีปัญญา เมื่อรู้เห็นเหตุทั้งหลายดีแล้ว จึงละความโกรธ
และสละมานะความถือตัว อันเป็นเหตุที่ทำให้เกิดความโกรธทิ้งไป
เพราะเห็นโทษว่า ความโกรธก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ทำจิตให้
กําเริบ เป็นภัยอันใหญ่หลวง บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่มีความโกรธ
แม้ใครๆ จักมีความโกรธ แต่ท่านก็ไม่โกรธตอบ
บุคคลใดมีความโกรธความอาฆาตพยาบาทต่อกัน นั่น
เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะจะทำให้เกิดความแตกแยก อันเกิดจาก
ความแตกต่างของจิตใจที่ไม่เสมอกัน เมื่อโกรธแล้วก็จะมีการ
ผูกเวรต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึง
ตรัสสอนไม่ให้จองเวรต่อกัน อันที่จริงก็ไม่รู้จะโกรธกันไปทำไม
เพราะเราคือเพื่อนพ้องพี่น้องกันที่เกิดมาร่วมทุกข์ ร่วมแก่