ข้อความต้นฉบับในหน้า
Dsuem ประชาช
ความชั่วแม้เล็กน้อยไม่ควรทำ
บำเพ็ญเพียรมานาน
๒๖๓
ตอนนี้กำลังปล่อยใจเคลิบเคลิ้มไปกับสิ่ง
ไร้สาระ เราจะให้คติเตือนใจแก่พระคุณเจ้าให้ท่านได้คิด คิดดังนี้
แล้ว จึงปรากฏกายให้ท่านเห็น และกล่าวขึ้นว่า “ที่ท่านยืน
สูดดมกลิ่นเช่นนี้ ท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้ขโมยกลิ่น เพราะท่านคิดว่า
กลิ่นนี้ดีจริงหนอ ความคิดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความขโมย”
พระภิกษุได้ฟังเพียงแค่นี้ รู้สึกสลดใจมาก จึงเดินทาง
กลับพระเชตวัน เข้าไปถวายบังคมพระศาสดา พระองค์ทอด
พระเนตรเห็นก็ตรัสถามว่า “ภิกษุ หลังจากที่เธอเรียนกัมมัฏฐาน
แล้ว เธอไปอยู่ที่ไหนมา” ภิกษุนั้นกราบทูลว่า “ข้าพระองค์ไป
อยู่ป่าในโกศลรัฐ ถูกเทวดาตนหนึ่งที่ป่าทำให้ข้าพระองค์สลดใจ
จึงเดินทางกลับมา พระเจ้าข้า” จากนั้นได้ทูลเล่าเรื่องราวทั้งหมด
พระองค์สดับดังนั้นแล้ว ก็ตรัสว่า “ภิกษุ ไม่ใช่มีแต่เธอเท่านั้นที่
ดมดอกไม้แล้ว ถูกเทวดาตัดพ้อให้สลดใจ แม้บัณฑิตในกาลก่อน
ก็เคยถูกเทวดาทําให้สลดใจมาแล้วเหมือนกัน” เมื่อภิกษุนั้น
ทูลอ้อนวอนให้ตรัสเล่า พระองค์จึงนำเรื่องในอดีตมาตรัสเล่าว่า
ชาติหนึ่งที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์อาศัยอยู่ใน
แคว้นกาสี เมื่อเติบโตได้ศึกษาศิลปวิทยาที่เมืองตักกสิลา
ครั้นเรียนจบแล้วได้เดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน ความคิดของ
ผู้มีบุญนี้ เมื่อเห็นเหตุการณ์อะไรก็ตามที่คนอื่นไม่คิด แต่ท่านคิด