ข้อความต้นฉบับในหน้า
เป็นใหญ่ด้วยธรรม
๔๒๖
หินดาดนั้นมีโพรงไม้ ซึ่งสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งอาศัยอยู่ มันจึง
ได้ยินมนต์นั้น และสามารถท่องจำจนแคล่วคล่อง ที่เป็นอย่างนี้
เพราะในอดีตชาติสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นเคยเป็นพราหมณ์ที่ทรงจำ
ปฐวีวิชัยมนต์ได้นั่นเอง
พระโพธิสัตว์สาธยายมนต์จบแล้วก็ลุกไป ส่วนสุนัข
จิ้งจอกก็ออกจากโพรงไม้ แล้วกล่าวว่า “ท่านพราหมณ์ผู้เจริญ
มนต์นี้ข้าพเจ้าท่องได้ชำนาญยิ่งกว่าท่านเสียอีก” แล้วรีบวิ่งหนีไป
พระโพธิสัตว์คิดว่า สุนัขจิ้งจอกตัวนี้จักทำอะไรไม่ดีเป็นแน่ จึง
ติดตามไป สุนัขจิ้งจอกรู้ทันจึงได้หนีเข้าไปในป่า ได้ร่ายปฐวีวิชัย-
มนต์บังคับสุนัขจิ้งจอกทั้งหลายให้อยู่ในอำนาจของตน อีกทั้ง
ยังทำสัตว์ ๔ เท้า มีช้าง ม้า สิงโต เสือ กระต่าย เป็นต้น ให้ตก
อยู่ในอำนาจของตน แล้วได้ตั้งตนเป็นพญาสัตว์ชื่อว่า สัพพทาฐะ
มีนางสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งเป็นภรรยา ทั้งสองได้นั่งบนหลังราชสีห์
ที่ยืนอยู่บนหลังช้าง ๒ เชือก คอยคุ้มกัน นับเป็นยศอันยิ่งใหญ่
ที่มันได้รับในครั้งนั้น
พญาสุนัขจิ้งจอกมัวเมาด้วยลาภยศ เกิดมานะคิดจะชิง
ราชสมบัติจากพระเจ้ากรุงพาราณสี จึงน่าหมู่สัตว์จตุบาท
มากมายขบวนยาวถึง ๑๒ โยชน์ ไปกรุงพาราณสี แล้วพญา
สุนัขจิ้งจอกได้ส่งสาสน์ไปถึงพระราชาว่า “จะมอบราชสมบัติให้
แต่โดยดี หรือว่าจะรบกัน” ชาวกรุงพาราณสีต่างสะดุ้งหวาดกลัว