ข้อความต้นฉบับในหน้า
ระแวงภัยที่ควรระแวง
៤៥៦
รุกขเทวาตัวสั่นสะท้าน พลอยทำให้ต้นโกฏิสิมพลีสั่นจนถึง
โคนไปด้วย
พญาครุฑเห็นรุกขเทวาสั่นสะท้านเช่นนั้น จึงถามว่า
“ท่านรุกขเทวา แม้เราจะนำนาคตัวขนาดใหญ่ รวมกับน้ำหนัก
ตัวของเรา ก็ไม่เห็นท่านแสดงอาการสั่นสะท้านแต่อย่างใดเลย
แต่เมื่อท่านมองเห็นนกตัวเล็กๆ เท่านั้น ทำไมจึงแสดงอาการ
สั่นสะท้านเช่นนั้นเล่า” รุกขเทวาโพธิสัตว์ตอบว่า “ท่านพญาครุฑ
ตัวท่านมีเนื้อเป็นภักษา แต่สกุณาตัวน้อยนี้มีผลไม้เป็นอาหาร
หากนกน้อยนี้จิกกินลูกไทร ลูกมะเดื่อ ลูกโพธิ์ แล้วมาถ่ายรด
ต้นไม้วิมานของเรา เมล็ดพันธุ์ดังกล่าวที่นกมาถ่ายรดไว้ย่อม
เจริญเติบโตขึ้น และปกคลุมวิมานของเรา เรามองเห็นภัยอย่างนี้
จึงสั่นสะท้าน ท่านพญาครุฑ ไม่ใช่เพราะเรากลัวเจ้านกตัวน้อย
นั้นแต่อย่างใด"
พญาครุฑได้ฟังถ้อยคำอันน่าอัศจรรย์ใจ ในความเป็นผู้ที่
มองเห็นภัยที่ยังมาไม่ถึงเช่นนี้ รู้สึกปีติในถ้อยคำของพระโพธิสัตว์
จึงได้กล่าวยกย่องพระโพธิสัตว์ว่า “ธีรชนผู้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์
ย่อมระแวงภัยที่ควรระแวง ระวังภัยที่ยังมาไม่ถึง ย่อมสามารถ
มองเห็นภัยในโลกทั้งสอง คือโลกนี้ และโลกหน้าได้อย่างชัดเจน
แจ่มแจ้ง” พญาครุฑรีบไล่นกน้อยตัวนั้นให้หนีไป ด้วยปรารถนา
จะให้รุกขเทวาโพธิสัตว์สบายใจ