ข้อความต้นฉบับในหน้า
แก้วมณีไม่มีหมอง
๑๒๔
“พวกท่านสงสัยใครล่ะ” พวกเดียรถีย์กราบทูลว่า “ทุกวันที่ผ่านมา
นางเข้าไปอยู่ในวัดเชตวัน และที่พระเชตวันนั้นพวกข้าพระองค์
ยังไม่ได้ค้นดูเลย” พระราชาจึงทรงอนุญาต เมื่อได้รับอนุญาตจาก
พระราชาแล้ว ก็พาอุปัฏฐากของตนไปค้นหาในวัดพระเชตวัน
เห็นศพของนางอยู่ในกองขยะดอกไม้ เมื่อค้นหาเจอแล้ว ก็รีบ
ไปกราบทูลพระราชาทันที
ด้วยเหตุนี้ มหาชนที่อินทรีย์ยังอ่อนอยู่ก็เชื่อข่าวลือนี้
ว่าเป็นฝีมือของคนในพระพุทธศาสนา ส่วนผู้ที่มีปัญญา
มีอินทรีย์แก่กล้าก็ไม่เชื่อ พระราชาจึงสั่งให้คนไปสืบดู ในที่สุด
ก็รู้ว่าเป็นฝีมือของพวกเดียรถีย์ที่ฆ่านาง เพราะความแตกตรงที่
พวกนักเลงเมาเหล้าแล้วพลั้งปากพูดออกมา พระราชามีราช
โองการให้จับพวกเดียรถีย์และนักเลงทั้งหมดไปประจานรอบเมือง
เพื่อเปลื้องค่าครหาใส่ร้ายป้ายสีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สําหรับพระพุทธองค์นั้นทรงนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่มีผู้ใดจะ
ทำความเศร้าหมองให้เกิดแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ เหมือน
กับบุคคลไม่อาจทําความเศร้าหมองให้เกิดแก่ดวงแก้วมณี"
แล้วทรงตรัสเล่าเรื่องในอดีตเป็นอุปมาอุปไมยให้ภิกษุทั้งหลาย
ฟังถึงสุกรกลุ่มหนึ่งที่พยายามทำแก้วมณีให้เศร้าหมอง แต่ไม่อาจ
ทําได้สําเร็จ เรื่องมีอยู่ว่า