ข้อความต้นฉบับในหน้า
ละความโกรธกันเถอะ
๓๒๐
ทรงมอบให้ ได้แต่พรรณนาถึงโทษของเบญจกามคุณ แล้ว
สรรเสริญคุณของบรรพชาอยู่ตลอดเวลา แม้พระราชาจะทรง
ใช้วิธีการต่างๆ ก็ไม่สามารถจะผูกใจนางไว้ได้ จึงรับสั่งให้ขัง
นางไว้ในห้องใต้ดิน แล้วเสด็จไปหาพระโพธิสัตว์ซึ่งกำลังนั่งเย็บ
ผ้าอยู่ตามล่าพัง พลางตรัสถามว่า “ท่านดาบสยังมีความโกรธ
อยู่บ้างไหม ที่เราแย่งนางดาบสินีของท่านไป
ดาบสโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงตั้งใจจะสอนธรรมะให้
พระราชา จะได้ไม่มัวหลงใหลในนางดาบสินี ซึ่งจะเป็นบาป
ติดตัวข้ามชาติ ท่านได้พูดถึงความโกรธไว้ว่า “ดูก่อนมหาบพิตร
อาตมาไม่ได้โกรธพระองค์เลย เพราะความโกรธมีโทษมาก
ประกอบด้วยความพินาศใหญ่หลวง เมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว
บุคคลย่อมไม่เห็นทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น ความโกรธ
เป็นอารมณ์ของคนไร้ปัญญา
หมู่ชนผู้ยินดีในความโกรธที่เกิดขึ้นแล้ว ชื่อว่าเป็นศัตรู
แก่ตนเอง หาความทุกข์ใส่ตัว ผู้ที่ถูกความโกรธครอบงำแล้ว
ย่อมละทิ้งกุศลธรรมทุกอย่าง เขาประกอบด้วยกิเลสหมู่ใหญ่ที่
น่ากลัว มีกำลังสามารถปราบผู้อื่นให้อยู่ในอำนาจได้ อาตมา
เห็นโทษอย่างนี้จึงไม่โกรธ และไม่ผูกโกรธ ขอถวายพระพร
ธรรมดาไฟย่อมเกิดขึ้นที่ไม้สีไฟซึ่งบุคคลสีอยู่ ไฟเกิดขึ้นจากไม้ใด
ย่อมเผาไม้นั้นเองให้มอดไหม้ได้