ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ชีวิต ของนักสร้างบารมี
๓๒๗
อยากจะประพฤติกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต เมื่อสุจริตทั้ง
๓ เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ อย่าง คือ การตามพิจารณา
เห็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรมก็
บังเกิดขึ้นตามมาเป็นลูกโซ่ เมื่อสติปัฏฐานสี่บริบูรณ์ ย่อมส่ง
ผลให้โพชฌงค์ ๗ อันเป็นเครื่องตรัสรู้บังเกิดขึ้นมา และสุดท้าย
วิชชา คือความรู้อันบริสุทธิ์ และวิมุตติ คือความหลุดพ้นจาก
กิเลสอาสวะทั้งหลายก็จะเกิดขึ้น” นี่เป็นอานิสงส์ในการคบ
บัณฑิตหรือสัตบุรุษ ว่ามีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ต่อตัวของเรานั่นเอง
ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่
พระองค์จะกำหนดกิจวัตรส่วนตัว เพื่อสะดวกในการจัดสรร
เวลาแสดงธรรมแก่พุทธศาสนิกชน เนื่องจากทุกวันจะมีทั้งมนุษย์
และเทวดามาเข้าเฝ้ามิได้ขาด พระองค์จึงกำหนดไว้ว่า ในยามเย็น
จะแสดงธรรมให้กับญาติโยม เวลาค่ำจะแสดงธรรมแก่ภิกษุสงฆ์
ส่วนในเวลาเที่ยงคืนจะทรงพยากรณ์ปัญหาแก่เทวดาที่ลงมา
จากสวรรค์ชั้นต่างๆ
*ในเมืองสาวัตถีนั้น มีอุบาสกท่านหนึ่งชื่อธัมมิกอุบาสก
ท่านได้ฟังธรรมจนได้บรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล เป็นผู้
*มก. เล่ม ๔๗ หน้า ๓๖๓