ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาศัยมานะเพื่อละมานะ
៩២
คงเก็บบริขารทุกอย่างไว้ และเนื่องจากท่านเป็นผู้มีศีล แม้อยู่
ในแวดวงพวกพรานไพร ก็ไม่ฆ่าสัตว์ ทําหน้าที่เพียงแค่หาบเนื้อ
ไปขายในเมือง
หลังจากนั้นไม่นาน ภรรยาของท่านได้ให้กำเนิดบุตร
ชายคนหนึ่งชื่อว่า สุภัททะ วันหนึ่ง หลังจากกลับจากขายเนื้อ
ได้ยินภรรยาร้องเพลงกล่อมลูกน้อยในทำนองกระทบกระเทียบ
เปรียบเปรยว่า “ลูกเอ๋ยเจ้าจงหลับเสียเถิด อย่ากวนใจแม่เลย
ทุกวันนี้แม่ก็ตรอมตรมระทมทุกข์อยู่แล้วที่ได้สามีเป็นนักบวช
ไปไหนก็อายเขา พ่อเจ้าเป็นคนหาบเนื้อเหมือนทาสกรรมกร
ตอนเป็นนักบวชก็ทำกิจของนักบวชไม่สำเร็จ แล้วมาเป็นพ่อเจ้า
จะทำกิจของฆราวาสให้ดีได้อย่างไร”
อุปกาชีวกได้ยินดังนั้น เกิดทิฏฐิมานะขึ้นในใจ โพล่งออก
ไปว่า “เจ้าอย่ามาดูหมิ่นดูแคลนเรา ครั้งเมื่อเราเป็นนักบวช
เรามีแต่ความบริสุทธิ์บริบูรณ์ และเรายังมีมหาสมณะรูปหนึ่ง
ที่น่าเลื่อมใสเป็นสหาย เจ้าดูหมิ่นเราเช่นนี้ เราไม่อยู่กับเจ้าแล้ว
เราจะไปหาสหายของเรา” แล้วท่านก็เดินไปหยิบบริขาร
นักบวชที่เก็บไว้ ตั้งใจมั่นที่จะออกบวช โดยไม่เยื่อใยในชีวิตการ
ครองเรือนอีก ออกเดินทางมุ่งหน้าไปหาพระบรมศาสดา เที่ยว
ถามหาแต่พระอนันตชิน