ข้อความต้นฉบับในหน้า
Bsumaประช
คนมีเมตตา ชื่อว่ารักตนเอง
๑๕๖
มารดาผู้ให้กำเนิด ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูบุตรที่เกิด
ในอุทร สามารถสละชีวิตของตนได้ด้วยความรักลูกฉันใด บุคคล
ผู้ประกอบด้วยเมตตา ตั้งอยู่ในเมตตา เจริญเมตตา จึงตั้งจิตดวง
นั้นให้มั่น เช่นเดียวกับมารดาที่สามารถสละชีวิตแทนบุตรของตน
ได้ฉันนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่า เมตตาธรรมเป็นพรหมวิหาร
ในพระพุทธศาสนาที่จะยังสันติสุขให้บังเกิดขึ้น มารดาผู้ให้กำเนิด
บุตร ถนอมบุตรของตนยิ่งชีวิต ยอมสละชีวิตของตนแทนบุตรได้
สภาวจิตของมารดานั้นถือเป็นพรหมวิหารธรรมอย่างหนึ่ง
ดังนั้น นักสร้างบารมีทั้งหลายพึงรักษาดวงจิตไว้ใน
เมตตาธรรม เมื่อจิตมีความรัก ความซาบซึ้งใจ อย่ามีจำเพาะ
บุคคลที่ตนรัก หรือเฉพาะลูกของตนเองเท่านั้น ให้ใช้จิตที่
ประกอบด้วยเมตตาธรรมนั้นแผ่ไปให้แก่บุคคลอื่นๆ ตลอดจน
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้เหมือนกันหมดทั้งญาติพี่น้อง มิตรสหาย
และคนทั่วไป เอาใจของเรา จิตของเราที่เอิบอาบซึมซาบ
เหมือนกับมารดารักลูกที่เกิดแต่อก ขยายใจแผ่ไปด้วยความรัก
ความปรารถนาดีในบุคคลทั้งหลาย ให้ทุกคนเสมือนลูกของเรา
ถ้ามีความรู้สึกเช่นนี้ เมตตาพรหมวิหารธรรมย่อมเกิดขึ้นอย่าง
เต็มที่ ใจของเราเองก็สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเสมอ
*ดังเช่นในสมัยหนึ่งกบิลดาบสได้บำเพ็ญภาวนาอยู่ในป่า
*มก. เล่ม ๑๑ หน้า ๕๕๗