ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
แก้วมณีไม่มีหมอง
๒๓
พระภิกษุสงฆ์เช่นนี้ ย่อมทำให้พวกเดียรถีย์ซึ่งเป็นนักบวชนอก
พระพุทธศาสนาต้องเสื่อมจากลาภ หมดความเคารพนับถือ
หมดรัศมี ประดุจแมลงหิ่งห้อยสิ้นแสงเมื่อถูกพระอาทิตย์อุทัย
สาดส่อง ด้วยเหตุนี้ พวกเดียรถีย์จึงประชุมหารือกันเพื่อใส่ร้าย
พระพุทธองค์
ในที่สุดได้สร้างเรื่องว่าอุปัฏฐายิกาของพวกตนถูกฆ่าตาย
แล้วหมกศพไว้ในพุ่มไม้ใกล้กับพระคันธกุฎีของพระผู้มีพระภาคเจ้า
ซึ่งอันที่จริงพวกเดียรถีย์ได้ส่งอุปัฏฐายิกาของตนให้เข้าไปใน
วัดพระเชตวันช่วงเย็น โดยให้เดินสวนทางกับมหาชนที่กำาลัง
เดินทางกลับ หลังจากการฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วให้เลยไปพักในอารามของอัญญเดียรถีย์ใกล้กับวัดพระเชตวัน
ทุกเช้าตรู่ก็ให้ทำทีว่าออกจากวัดพระเชตวันโดยให้เดินสวนทาง
กับมหาชนอีกเช่นกัน และเมื่อมีใครถามก็ให้ตอบว่า นางอยู่ใน
พระคันธกุฎีเดียวกันกับพระสมณโคดม
ผ่านไปได้ ๒-๓ วัน พวกอัญญเดียรถีย์ได้ว่าจ้างนักเลง
สุราให้ไปฆ่านาง แล้วให้หมกร่างของนางไว้ระหว่างกองหยากเยื่อ
ใกล้ๆ พระคันธกุฎีของพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อแผนกลั่นแกล้ง
สําเร็จไประดับหนึ่ง พวกอัญญเดียรถีย์พากันทำทีค้นหาทั่ว
ทั้งเมืองว่า พวกเราไม่เห็นอุปัฏฐายิกาของเรา จากนั้นพากันไป
กราบทูลพระราชาว่าคนของตนหายไป เมื่อพระราชาตรัสถามว่า