ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาอุปมัยจากพระไตรปิฎก
พระนาคเสนตอบโดยอุปมาว่า เหมือนสวะคือทะเล ไม่ได้เห็นแตรว่ามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เช่นกัน ไม่เลยเห็นแต่รู้ว่ามี
มิสิน ๑๐๘
๒.๓๗ พระเจ้ามิลินทร์สถลามพระนาคเสนว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ชี้ได้ไหมว่าอยู่ที่ไหน
พระนาคเสนตอบว่า เปลวไฟดับแล้ว ไม่อาจบอกว่าอยู่ที่ไหน ฉันใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ธิเห็นพานแล้วไม่อาจบอกว่า ฉันนั้น อาจจะได้เพียงพระธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
มิสิน ๑๑๓
๒.๔ คุณวิเศษ
๒.๔.๑ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงปกปิดพุทธภาษนั้นทั้งหมดไว้ในกลีบจิว่า ทรงถือบาตรและจีวรด้วยพระองค์เอง เสด็จไปโดยที่ไม่มีใครรู้จัก เหมือนพระจันทร์ในวันเพ็ญที่จะปิดบังไว้ในกลีบมอ
มะมุ (อรรล) มก. ๑๙/๑๔
๒.๔.๒ เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงลิส่งลิ้งใส่หนึ่ง ย่อมไม่พลาด ย่อมไม่ขัดข้องต่อเนื่องกัน บุพเพนิวาสญาณ (การละลิกชาติ) ย่อมเล่นไปไม่ติดขัด ดูลูกครรเหล็กลำไปบ้างในกองใบที่พี่
ทิม. (อรรล) มก. ๑๓/๑๗๒
๒.๔.๓ บูรพผู้เจ้าจักยืนอยู่ยอดเขาเสลาว พึงเห็นหมู่ชนโดยรอบ ฉันใด ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์เป็นผู้มีปัญญา มีฌาณโดยรอบด้วยพระสัปบุญญา ก็ฉันนั้น เสด็จขึ้นสู่ปราสาทลำเรือด้วยธรรม ทรงจิราณา ทรงใคร่ครวญ ทรงตรวจตราหมู่ชนผู้เกลือกกลั้วไปด้วยความโศก ถูกชาติโคร่งน
ทิม. (อรรล) มก. ๑๓/๑๕๐
๒.๔.๔ บูรพผู้เจ้าจักยืนอยู่ยอดภูเขานั้น มองดูพื้นดินดี ไม่ปรากฎแนวพื้นที่เฉพาะปลูก ไม่ปรากฎร่องมนุษย์ที่นอนในกระท่อมนัน แต่ปรากฎเพลิงในกระท่อมทั้งหลายเท่านั้น ฉันใด เมื่อพระตาคมสดจึงสรรธรรมปราสาททรงตรวจดูสัตว์ สัตว์ทั้งหลายที่ไม่ได้ทำความดี แน่นอน ณ ช้างพระราชา (เขา) เมื่อข้าวในที่อยู่แห่งเดียวกัน ก็ฉันนั้น ไม่มาถึงกลองแห่งพุทธะกุศ
ทิม. (อรรล) มก. ๑๓/๑๕๐