ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๑.๙๙
๖.3 เมื่อฝนไม่ตก พิซาคาม' ภูเขา* และติณชาติ* ที่ใช้เขย่าใบไม้ใหญ่อย่อมเคราะเหี่ยวแห้ง เป็นอยู่ไม่ได้ ฉันใด สัญญาณฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่มั่นคง นี่เป็นกำหนด ควรเม่อน่าน ควรคลายกำหนด ควรลุสพ้น ใส่สาขาขันท่วง
อัง.สัตตก. (พุทธ) มก. ๓๗/๒๔
๖.4 เมื่อด่าย่เขากำลังทอ ช่างทุกคูไบได้เทด คำที่จะต้องทอจึงยังเหลืออยู่น้อยเท่านั้น แม่นั่นใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น
แม่หนีพัดฝ่อนไม่พัดเอาต้นไม้ ที่คีบอยู่รั่งพึงให้คนไป ฉันใด สัตว์ทั้งปวงย่อมถูกชราและมะระพัดพาไป ฉันนั้น
ขุซา. (โสธิ) มก. ๖/๑๕
๖.5 ทางไปของน้ำ ลม ไฟ ย่อมปรากฏ เพราะหั๋ว และต้นไม้ไหม้ โคนล้ม หรือเพราะถูกไฟไหม้ ฉันใด ทางไปของรายย่อมปรากฏโดยที่พินิจ
สัง.นี. (อรรถ) มก. ๒/๒๕
๖.6 บนนี้ ท่านเป็นดูใบไม้เหลือง อันง บรูษแหนพระยายม คือ ความตายปรากฏแก่ท่านแล้ว ท่านต้องอยู่ในลำปากแห่งความเสื่อม
ขุซ. (อรรถ) มก. ๔/๑๘
๖.7 บัดนี้ เรายัง่าแต่เป็นผู้ใหญ่ช่วงตอนผ่านวัยแล้ว วัยของเราเป็นมาถึง ๘๐ ปีแล้ว เกวียนเก่าอ้ายจะใช้ไปได้ก็เพราะการซ่อมแซมด้วยไม้ไฟ ฉันใด กายของตนก็ดังนี้เหมือนกันยังเป็นไปไม่ได้ ก็คล้ายกับเกวียนเก่าที่ซ่อมแซมแล้วด้วยไม้ไฟ ฉันนั้น
สัง.ม. (พุทธ) มก. ๓๐/๑๓๓
๖.8 เมื่อเราถูกโรคอย่างหนึ่งถูกต้อง ได้สวยทุกขเวทนาอย่างสาหัส อันทุกขเวทนาเมียเขียนอยู่ ร่างกายนี้ถูกผอมลงอย่างรวดเร็ว จุดอ่อนใบนั่งท่าทั้งตามแดดไว้ที่ราย ฉันนั้น
ขุซา. (อรรถ) มก. ๕/๓๓๓
๗. ความตาย
๗.๑ ผลไม้กลายแล้ว ย่อมมีผี เพราะจะต้องร่วงหล่นลงเป็นนิรันดร ฉันใด สัตว์ทั้งหลายผู้เกิดแล้ว ชื่อว่า ย่อมมีผี เพราะจะต้องตายเป็นนิรันดร ฉันนั้น
ขุซา. (โสธิ) มก. ๖/๑๖