ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๓๙
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๒. การฝึกจิต
๒.๑ ไม่นานนท์ บันทึกกล่าวว่า เลิกกว่ากุมารชิดทุกชนิด เพราะเป็นของอ่อน และควรแก่การงาน นั้นใจ
เราย่อมไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้อย่างหนึ่งที่อบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมชาติเบา และควรแก่งานเหมือนจิต
จิตที่อบรมแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นธรรมชาติเบา และควรแก่การงาน ฉันนั้นเหมือนกัน
อัง.เอกก. (พุทธ) มก. ๓๒/๔๕
๒.๒ เราจักระวังจิตนั้นไว้ เช่นนายหัตถาจารย์กักช้างไว้ที่ประตูนคร ฉะนั้น เราจำไม่ประกอบจิตไว้ในธรรมอันลาม จัดไม่ยอมให้ติดลงสู่ข่ายแห่งกามอันเกิดในร่างกาย เจ้าภูเราก็ได้แล้วจากไปตามชอบใจไม่ได้.
ขุ.เธร. (เถระ) มก. ๓๒/๑๙
๒.๓ ดูก่อนจิตผู้ชั่ว บัดนี้เจ้าผู้นั้นยินดีในธรรมอันลามเทียวไปเนื่องฯ ดังก่อนมิได้ นายเวทนามีกำลังแข็งแรง ย่อมบังคับช้างที่ได้ใหม่ ยังไม่ได้ผง ให้อยู่ในอำนาจด้วยขอ ฉันใด เราจักบังคับเจ้าให้อยู่ในอำนาจ ฉนั้น.
ขุ.เธร. (เถระ) มก. ๓๒/๑๘
๒.๔ นายสาระผู้นลาดในการฝึกม้าให้ดีเป็นผู้ประเสริฐ ย่อมฝึกม้าให้รบรู้ได้ ฉันใด เราฝึกเจ้าให้ตั้งอยู่ในพล๕ (ศรัทธา, วิริยะ, สติ, สมาธิ, ปัญญา) ฉันนั้น จักผูกเจ้าด้วยสติ จัดฝึกจับงำบังบังคับเจ้าให้ทุกข์ด้วยความเพรียง เจ้ามิได้ไปจากอารมณ์ภายใน.
ขุ.เธร. (เถระ) มก. ๓๒/๑๙๘
๒.๕ เมื่อก่อน จิตนี้ได้เที่ยวจากไปตามอารมณ์ที่ปรารภนา ตามอารมณ์ใคร่ และตามความสบาย วันนี้ เราฉ่มมันด้วยโยนิโสนมสิการ ประหนึ่งนายความช้าง ข่มช้างนี้ชิมัน ฉะนั้น.
ขุ.ธ. (พุทธ) มก. ๓๓/๒๔
๒. ชนผู้มีปัญญา ย่อมทำจิตดีฉันรน กลับกลอก อนุครครามได้ยาก ห้ามได้ยาก ให้ตรงจุดชงครัดลูกคร่ำรง ฉะนั้น.
ขุ.ธ. (พุทธ) มก. ๓๓/๒๖๐