ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๕/๙
๑.๕ บุญ และบาปนั้น เป็นสมบัติของเขา และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไป อื่นยัง บุญและบาปนั้น ย่อมเป็นของติตตามเขาไปประจดงามติตตามตนไป นะนั้น.
สังส. (พุทธ) มก. ๒๔/๒๘
๑.๖ สิ่งที่ท่านมุ่งหมายแล้ว จงสำเร็จผลลัพธ์เดียว ความดำริทั้งปวง จงเต็มเหมือนพระจันทร์ในวันเพ็ญ สิ่งที่ท่านมุ่งหมายแล้ว จงสำเร็จผลลัพธ์เดียว ความดำริทั้งปวงจงเต็มเหมือนแก้วมนีโชติรส ฯ
มุง. (ปัจฉา) มก. ๒๕/๒๒
๑.๗ ธรรมดาท่านผู้เป็นสัตว์เกิดมาในที่สุดท้าย ไครไม่อาจทำอัลได้ เพราะมึอุปนิสัยแห่งอธิผลรุ่งเรืองอยู่ในหยาดของท่าน เหมือนดวงประทีปภายในหม้อ นะนั้น.
ขุป. (อรรถ) มก. ๕๙/๓
๑.๘ ธรรมดาเรื่อยร่มล้นไปในมหาสมุทรอันกว้างลึก เติมไปด้วยสัตว์น้ำนั้นไม่อาจประมาณได้ ฉันใด ก็มีผู้ปรารถนาความเพียรคาวคาวใจขวนขวายสร้างบารมี ทำลายเสียซึ่งสัญญาทั้งปวงเทียวไปเพื่อการรู้แจ้งแทงตลอดในอริยสัจ ฉันนั้น.
มิน. ๔๑๙
๑.๙ สัปปุรษเมื่อตเกิดในโลก ย่อมเกิดมาเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ผู้อื่นเป็นอันมาก คือ แก่มารดา บิดา แก่บุตร ธิษยา แก่วาสนธรรม ครับรับใช้ แก่มิตรสหาย แก่สมณพรามณ์ เปรียบเหมือนหมานมข้าราชาถุงตังให้คงาม ย่อมมีความประโยชน์ เพื่อเกื้อกูลเพื่อความสุขแก่เป็นอันมาก.
อัง.ปัญจก. (พุทธ) มก. ๖๗/๓๓
๑.๑๐ บุคคลผูทำกุศลกรรมบุตร เมื่อดายไปยอมเข้านิพพานสุดโลกสวรรค์ บุคคลนี้เองอ่ะจะ สวัสสรเสรีวิ่งวอน ก็ไม่สามารถทำล่วงลับไปสุดแล้ว ให้ไปปกติ อบาย นิพาน นรได้เหมือนหมี่ทีเนเจลไล เมื่อโยนลงไปในนาน เน็สนั้นมันย่อมลอยขึ้นมาเหนือนา จะสวัสสรเสรีวิ่งวอนให้เสนใ นาเมิน จงลงไปนานก็ไม่ได้.
สังสพท. (พุทธ) มก. ๒๕/๑๙๙
๑.๑๑ พระเจ้ามินทร์ทราสามพระนาคเสน่าว่า กุศลกรรม และอุกุศลกรรมที่บกเบิกด้วยรูปนามอันใดน่ะไหน
พระนาคเสนทูลตอบว่า ติดตัวไปเหมือนเงาตามตัว แล้วอุปมา ว่า ต้นไม้ทองไม่ผลก็ไม่อาจได้ว่าจะ ผลนั้นอยู่ที่ไหน ดังนั้น เมื่อการสืบต่อยังไม่ดาด ก็อาจจะส่งลงไปได้ว่ากรรมเหล่านั้นอยู่ที่ไหน.