อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก หน้า 288
หน้าที่ 288 / 370

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงเนื้อหาจากพระไตรปิฎกโดยใช้การอุปมาอุปไมยเพื่อสื่อความหมายในการเจริญภาวนาและการเข้าถึงมรรคที่บริสุทธิ์ การเดินตามทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ชี้นำ และการเข้าถึงจิตวิญญาณที่สูงส่ง ผู้เขียนเปรียบเทียบการพยายามของสมาธิในลักษณะต่างๆ เช่น สามกลอที่ช่วยกันเพื่อให้ถึงเป้าหมายในจิตวิญญาณ โดยมีพระธรรมเป็นแกนกลางของการสนทนา และการเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม.

หัวข้อประเด็น

-อุปมาอุปไมย
-การเจริญภาวนา
-มรรคและผล
-สมาธิ
-การศึกษาในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๑๒๙ อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก ดูดก่อนภิทษักหลาย เมื่อภิทษเจริญภาวนาอยู่ฉันนั้นเหมือนกัน แม้จะไม่รู้อย่างนี้ว่า วันนี้อาจจะของเราสิ้นไปเท่า นี้ เมื่ออายุสิ้นไปเท่า นี้ หรือเมื่อจบสิ้นไปเท่า นี้ แต่จริง เมื่ออาสาสิ้น ไป ภิกษุผู้นี้รู้ว่าสิ้นในนั้นเทียว องค์ สดตก. ( พุทธ) มก. ๓๗/๒๖๖ ๗.๘ พระองค์จงทรงทราบเติดพระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าเมื่อเที่ยวไปในป่า ได้พบ มรรคราคา หนทางเก่าที่คุ้นเคย เคยเดินไปมา ข้าพระพุทธเจ้าเดินตามทางนั้นไป เมื่อกำลังเดิน ตามทางหน่อย ยได้พบนครเก่า พบราชธานีโรไนซึ่งสมบูรณ์ด้วยสวน ป่าไม้ สระโบกกรณี มีซึ้ง เทียน ล้วนหน้ารื่นรมย์ มนคนก่อนๆ เคยอยู่อาศัยมา ขอยพระองค์จงทรงสร้างพระนครนั้นเกิด พระพุทธเจ้าข้า ลำดับนั้น พระราชาหรือราชามาหาถามว่ามีสร้างเมืองนั้นขึ้น สมัยต่อมา เมืองนั้นเป็นเมืองมั้งคั่งและสมบูรณ์ขึ้น มีประชาชนเป็นอันมาก มิมุษยเคลื่อน กลุ่ม และเป็นเมืองถือนความจริงมโหฬาร แม้นใจใด ภิทษ็งหลาย เราได้พบมรรคราคา หนทางเก่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นครสูตร ว่าด้วยโลก นี้ลำบากเพระมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระองค์คงอุทิษา คำลึกด่า ก็ราชาเก่า หนทางเก่าที่พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าค่อนๆ เคยเสด็จไปนั้น เป็นในฉะ คือนรรครอันประกอบด้วยองค์ ๙ อันประกอบนี้ นี้แหละ สัมมาทิฏฐิ ฯ ฯ ฯ สมัยามามีนี้แล้ว มรรคราคา หนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพอง่ค้ยค่อนๆ เคยเสด็จไปแล้ว เราได้เดินตามหนทางนั้นประเสริฐประกอบด้วยองค์ ๘ ประกอบเป็นทางเก่าเท่านั้น สังม.ี. (พุทธ) มก. ๒๖/๒๔๑๔ ๗.๙ สามกลองที่ชวนกันเข้าไปสู่ยานด้วยตั้งใจว่า พวกเราเล่าน่าท่านักชฎกษ์ (งานประจำปี) คนหนึ่งพ้นต้นจำปาดอทบาด ยกมือขึ้นไปไม่อาจเก็บไว้ได้ ทีนี้ คนที่สองจึงมองหลังให้เขา แมเขาได้ย้อนบนหลังของคนที่สองนั้น ก็ยังคิดไม่ไ่ด้ ที่มัน อีกคนหนึ่ง ก็จะจอยบ่าให้เขา เมื่อเขาได้ยืนบนหลังของคนหนึ่งแล้วเหนียวจะอยู่ออกจากอีกคนหนึ่ง จึง เก็บดอกไม้มาประดับตาม ชอบใจแล้วเล่นงานนักชฏกษ์ ฉันใด พิทักษ์คำที่นำมาเปรียบนี้ ฉันนั้น คือ ธรรมทั้งสามมีความพยายามชอบ เป็นดั่ง ซึ่งเกิด รวมกัน เหมือนสามกลอที่เข้ามาสนทด้วยกัน อารมณ์เหมือนดั่งดาบดิบงานสะรัง สมาธิไม่ สามารถจะถึงมาถได้เพราะเป็นภาวะที่เดี่ยวใจในอารมณ์โดยลำพังตนเอง เหมือนคนทั้งนี้จะได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More