ข้อความต้นฉบับในหน้า
234
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๓.๗๗ บรรดินทางไกล เกิดมีคนป้องร้ายเขาขึ้นที่สองข้างทาง เขาจึงเกิดความหวาดเสียว
เพราะถูกคนป้องร้ายขึ้นเป็นเหตุ ฉันใด
ดู ก่อนอุปมา ฉันนั้นเหมือนกันแล ความหวาดเสียวเกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความ
หวาดเสียวเป็นเหตุ สมาธิของเราจริงเคลื่อนไหว เมื่อสมาธิเกลื่อนไหวแล้ว แสงสว่าง และการเห็นรูปจึง
หายไปได้
ม.อ. (พุทธ) มก. ๒๓/๑๒
๓.๘ ความเพียรที่อ่อนโยนเกินไปแล เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ก็ความเพียรที่อ่อนโยนเกินไปเป็น
เหตุ สมาธิของเราจริงเคลื่อนไหว เมื่อสมาธิเกลื่อนไหวแล้ว แสงสว่าง และการเห็นรูปจึง
ดู ก่อนอุปมา เตรียมเหมือนบรรฑูรบูรณ์คู่หลวม ๆ นกคู่มันถึงกันไปจากมือได้ ฉันนั้น
ม.อ. (พุทธ) มก. ๒๓/๑๓
๓.๙ ความเพียรที่ปรารถนาเกินไปเป็นเหตุ สมาธิของเราจริงเคลื่อนไหว เมื่อสมาธิเกลื่อนไหวแล้ว
แสงสว่าง และการเห็นรูปจึงหายไปได้
ดู ก่อนอุปมา เปรียบเหมือนบูรษออมือทั้ง ๒ มือนากคู่ไว้แน่น นกคู่นั้นต้องถึงความ
ตายในมือนั้น ฉันนั้น
ม.อ. (พุทธ) มก. ๒๓/๑๓
๓.๑๐ เรือเดินสมุทรที่ชุลกุหลาบ ชนะเอาชนะและแล่นไปในน้ำตลอด ๖ เดือน ถึงฤดูหนาว
ขึ้นนั้นนับ เครื่องผูกประดังเรือกลากลมและแดดไว้ เครื่องผูกเหล่านี้ถูกฝนชะ ย่อมชำรุดเสียหาย
เป็นของเปื่อยไปโดยไม่ยาก ฉันใด
ดู ก่อนภิกษุที่ผ่านมา เมื่อภิกขุพุ่งเจริญความอยู่ สังโยชน์ย่อมระงับไปโดยไม่ยาก ก็ฉันนั้น
อ้าง,ศตตก. (พุทธ) มก. ๓๗๓/๒๓
๓.๑๑ ธรรมดาสารยอุดมจุดด้วยจุมูกของตน ทำให้เป็นรางในที่มาม่า แล้วอนช่วยใน
ราง ฉันใด วิญญูผู้ปรารถนาความเพียรควรเก็บไว้ในใจ ควรฝึกไว้ในอารมณ์แล้วฉันนั้น
มิลิน ๔๕๘
๓.๑๒ ดูก่อนกิจจะนะ เปรียบเหมือนประทับน้ำมันติดไฟอยู่ มาฝ้ำน้ำมัน ทั้งใส่ริบสุทธิ
ประทับน้ำมันนั้น ย่อมติดไฟอย่างไม่รีบรอน เพราะทั้งน้ำมัน ทั้งใส่ริบสุทธิ ฉันใด
ดู ก่อนท่านจะนะ ฉันนั้นเหมือนกันแล วิปุรามูรณ์ในธรรมมิวินัยนั้น น้อมใจแผ่ไปสู่อารมณ์
มุ่งแสงสว่างอริยฉะ เธอจะบังคับความชั่วหยาบทางกายได้ดี อตฺถิฺมิกะ (ความหยาบช้า) ได้ดี
ทั้งคำอัดุรัจจากลูกจุล (ความฟุ้งซ่าน) ได้ดี เธออยู่ง่วงเรื่องอย่างไรรับไม่ได้ เพราะระงับความชั่ว
หยาบทางกายได้ดี เธอ ตายไปแล้ว ย่อมเข้าสิงของเทวดามีวีรมุติ์เป็นอารมณ์
ที.ม. (พุทธ) มก. ๒๓/๑๖