ข้อความต้นฉบับในหน้า
34
อุปมาอปิยจากพระไตรปิฎก
๓.๙ พระสังฆีเถรออกจากสมบัติแล้ว เหยื่อบำเหน็จเดินไปบนถ่านเพลิงปราศจากเปลวไฟ เช่นดอกทองกวาว แม้คำว่าเปลวไฟไม่มีจั่วเม็ดคำว่าอาการแหง่ออยู่ในมี
สัง.สกฺ (อรรถ) มค. ๒๗/๑๓๗
๓.๙.๕ ภูเขาศิลาล้วนไม่หวั่นไหว ตั้งอยู่คงที่ แม้ฉันใด ภิกษุฉันนั้น ย่อมไม่หวั่นไหวดุจบรรพตเพราะสิ้นโมหะ
ข.เถร. (เถร) มค. ๒๕/๕๕
๓.๙.๖ เราย่อมไม่กลัวความตาย เหมือนคนดื่มยาพิษด้วยความลังเลแล้ววันทั้งไป
ข.เถร. (เถร) มค. ๕๓/๒๑
๔. จิตเกษม
๔.๑ เหมือนเจ้าหน้าที่สงสน หรือท่าน้องของเจ้าหน้าที่สงสนผู้อสลด จะพึงโหยผงที่ใช้ในการสงสนใส่ลงไปในการชนะสำเร็จ แล้วเอาน้ำผมหมกไว้ เวลาเย็นก่อนอรุณก็ใช้ในการสงสนมีดังวาจะชิ้นไปด้วยกันหมด ย่อมไม่ไหลออกไป ฉันใด ดูก่อนมานพ ภิกษุฉันนั้นและ ทำกายนี้และให้สดชื่นเอี่ยมอามซซาเช่นด้วยดี และสุขอันเกิดแต่เวคน ไม่ส่วนไหน ๆ แขนร่างกายของเธอทั้งตัววิติ และสุขอันเกิดแต่เวคนจะไม่ถูกต้อง
ที่.ส. (เถร) มค. ๑๒/๒๒
๔.๒ ภิกษุเข้าสู่ยอดนาม มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกพูดขึ้น เพราะวิญญาณและวิจารสงบไป ไม่วิจิต ไม่มีวิจาร มีจิต และสุขอันเกิดแต่สมาธิ เธอทำกายนี้แล้วให้ชุ่มชื่นอิ่มเอิบ บำบวน ด้วยดี และสุขอันเกิดแต่สมาธิ ไม่มีเอกเทปใด ๆ แห่งกายของเธอทั้งตัวที่ปิติ และสุขอันเกิดแต่สมาธิจะไม่ถูกต้อง
เปรียบเหมือนหวังน้ำลึก มีน้ำขังอยู่ ไม่มีทางที่จะไหลมาได้ ทั้งในด้านตะวันออก ด้านตะวันตก ด้านเหนือ ด้านใต้ ทั้งฝนก็ไม่ตกเพิ่มตามฤดูกาล แต่สายลมพุ้นฟูขึ้นจากหวงน้ำนั้นแล้วจะพึงทำให้งานนั้นแลให้ร่มเย็น เอนอาบ ชาบชื่นด้วยน้ำเย็น ไม่มีเอกเทปใด ๆ แห่งหวังน้ำนั้นทั้งปวงหมดนี้น้ำเย็นจะไม่ถูกต้อง ฉะนั้น
ม.ม. (พุทธ) มค. ๑๙/๒๓
๔.๓ ในอชฺชบาขุน ในอชฺชบัวหลวง หรือในอชฺชบัวขาว ดอกบัวขาว หรือต้นบัวบานงามเหล่านั้นเกิดในน้ำ เจริญในน้ำ ยิ่งไม่พ้นน้ำ จงอยู่ในน้ำ น้ำหล่อเลี้ยงไว้ ดอกบัว