ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๒๖
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
พึ่งหลาย ๗ ในสติดาวะนั่งหลาย ๙ ดูเจริญถูกลมชุ่มชิ้นในหามสมุทร และดูโคจรที่เทียบในเครื่องยนต์
ที่ม. (อรรถ) มก. ๑๓/๒๐๕
๒.๒ กระแสน้ำแห่งแม่น้ำคงกลาดไหลไปสมุทร ฉันใด ดูก่อนภิททั้งหลาย ถ้าท่าน พึงหลายจะไม่เวียนเข้าฝั่งข้างนี้หรือฝั่งข้างโน้น ไม่งมลงในทามกลาง ไม่เกยบก ไม่บุกมนุษย์หรืออมนุษย์จับไว้ ไม่ถูกเกลียววุ่นวาย จักไม่เป็นผู้เสียในอวัยวะ ด้วยประการดังกล่าวมานี้ ท่าน พึงหลายอักโขขึ้นอิงโยนไปสู่มหานที ก็มือนั้นเหมือนกัน.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๕๙
๒.๓ บูรพาตัดกิ่งไม้ถึงไม่ใบในชมพูพฤษภาคม แล้วจึงรวมกันได้ ครั้นแล้วพึงกระทำให้เป็น มัด ๆ ละ ๕ นิ้ววาไว้ สมมติว่านี่เป็นมารดาของเรา นี้เป็นมารดาของมารดาของเรา โดยลำดับ มารดาของมารดาแห่งบรรดานั้นไม่พึงสั่นสุด ส่วนหงูบูรพีนี้พิพึงถึงการผัดวันไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่าท้องสาสน์กำหนดในที่สุดเบื้องตนเบื้องปลายไม่ได้.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๕๙
๒.๔ บูรพทำหามบูรพนี้ให้เป็นก้อน ก้อนละเท่ากันกระบาแล้ววางไว้ สมมตว่านี่เป็นบิดาของเรานี้เป็นบิดาของบิดาของเรา บิดาของบิดาแห่งบูรพนี้ไม่พึงสั่นสุด ส่วนหาบูรพินั้น พึงถึงการผมล้นไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องตนเบื้องปลายไม่ได้.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๖๐
๒.๕ น้ำตาที่หลังไหลของพวกเธอผ่องเที่ยวไปมา ๆ ๆ โดยกาลนานนี้แหละมากกว่าส่วนในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๖๑
๒.๖ บ้านมหารดาที่พวกเธอผ่องเที่ยวไปมาอยู่โดยลำบาก ดีแล้วนั้นแหละมากกว่าบ้านในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารกำหนดที่สุดเบื้องตนเบื้องปลายไม่ได้.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๖๒
๒.๗ ภาษีนาลูกใหญ่อยู่ซ่อหนึ่ง กว้างโยชน์หนึ่ง สูงโยชน์หนึ่ง ไม่มีช่อง ไม่มีโครง เป็นแท่งทบ บูรพั้งชกแต่นากลำผามาแล้วเข็ดชานนั้น ๑๐๐ ปี ต่อครั้ง ภูเขาหนูลูกใหญ่บูรพนี้ พึงถึงการหมดไป สิ้นไป เพราะความพยายามนี้ ยังเร็วกว่าเดล ส่วนกับหนึ่งยังไม่ถึงการหมดไป สิ้นไป กับนานอย่างนี้เลย.
สงสถ. (พุธ) มก. ๒๔/๖๓