การพิจารณาความไม่เที่ยงของร่างกาย อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก หน้า 186
หน้าที่ 186 / 370

สรุปเนื้อหา

ในบทความนี้ได้กล่าวถึงการพิจารณาร่างกายและสิ่งต่างๆ ว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ผ่านการเปรียบเทียบและการสังเกตการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น การแตกของฟองน้ำในแม่น้ำ และการเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา การเข้าใจในความไม่เที่ยงของร่างกายจะทำให้เราสามารถมองเห็นความจริงเกี่ยวกับชีวิตได้ชัดเจนขึ้น และนำไปสู่ความเข้าใจในธรรมชาติของทุกข์ และความสุขที่แท้จริงได้

หัวข้อประเด็น

-การพิจารณาร่างกาย
-ความไม่เที่ยงของชีวิต
-ทุกข์และความสุข
-อนิจจัง อนัตตา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๓.๖ อายุย่อมอาศัยอยู่รอดอยู่ ไออุ่นก็อาศัยอยู่ฉอคงนตะเกียงนั่นแหละเหมือนตะเกียงน้ำนั้นกำลังไหม แสงอ่อนอาศัยเวลาปลายงปราดา ปลายไฟอ่อนอาศัยแสงจึงปรากฏ ฉันใดฉันก็นอนนั้นแหละ. ม.ม. (เณร) มก. ๑๙/๒๕๔ ๑๐ ร่างกาย ๑๐.๑ พยายามตั้งแต่นี้ขึ้นแล้วในฤดูร้อน ยอ่มปรากฏแก่บุคคลผู้อยู่นอ ค่ีโกล ดูมีปราง แต่ไม่ปรากฏเลยแก่บุคคลผู้อยู่นอ สักใกล้ ฉันใด แม้อัตรนภาพนี้ก็รูปเหมือนอย่างนั่น เพราะเกิดขึ้น และเสือมไป เดินมาแล้วเมื่อสายทาง อาบน้ำในแม่น้ำเจ้าวดี นั่งในเรือมิร่มผึ้งแม่น้ำมี กระแสอ่อนเข้าแอ่งหนึ่ง เห็นฟองน้ำใหญ่ ตั้งขึ้นด้วยกำลังแห่งกระบังและแตกไป ได้ถือเอาเป็นอารมณ์ว่า แม้อัตรภาพก็มีรูปร่างอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะเกิดขึ้นแล้วก็แตกไป. ขณ. (เณร) มก. ๑๙/๖ ๑๐.๒ คนที่หลหลายแสนเหงาน้ำในพยับแดด แม้ไม่มีน้ำ ฉันใด ก็อิฏฐารูปาวเห็นนายอันนี้ว่า เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่สุขงามว่า เป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน และ สวยงาม ฉันนั้น. ที.ม. (อรสร) มก. ๑๙/๒๓ ๑๐.๓ การพิจารณาน้ำในพยับแดดแแต่ไม่มีน้ำ ฉันใด การพิจารณาว่าเป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นอัตตา และงาม ในภายนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และไม่นานันเอง ฉันนั้นหามได้ ที่แท้ การพิจารณาก็คือ การพิจารณาหมูแห่งอาการที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และไม่นานันเอง. ขม. (อรรถ) มก. ๑๕/๑๙ ๑๐.๔ คนที่ผ่านมาเก็บคน หรือลูกมือของเขา ที่เขาเลี้ยงดุด้วยอาหาร และค่าจ้าง มำโคแล้ว ชำและแบ่งออกเป็นส่วนฯ แล้วนั่ง ถึง ทางใหญ่ ๔ แห่ง คือ ที่ขุมทางยานกลางทางใหญ่ ซึ่งไป ได้ทั้ง ๔ ทิศ ฉันใด ก็อิฎฐารูปามเพียวๆนะครับก็ฉันนั้นแหละ ยอ่มพิจาราณร่างกายอย่างนี้ว่า ในกายนี้มีปุริสิต อาโยธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ. ที.ม. (อรสร) มก. ๑๙/๑๐๕ ๑๐.๕ เมื่อเขาชำแหละแบ่งออกแล้ว ความสำคัญว่าคำขายไป กลับสำคัญเนื้อโคไป เขามิได้กล่าวว่า เราชาวโค ที่แบ่งเขาคือว่า เราชาวเนื้อโค เปรียบฉันใด แต่ก็รู้กันนั่นแหละ เมื่อครั้งเป็นปุรุษผูเหล่า เป็นคนสักสักดี บรรพชิตดี ลำสัญลักษณ์หรือบุคคลยังไม่ทยอยไปก่อน ตราบเท่าที่ยังไม่พิจารณาเห็นกายนี้กายนี้ตามที่ตำรงอยู่ แยกออกจากกัน ต่อเมื่อเธอพิจารณาโดยเห็นความเป็นธาตุ ความสำคัญว่าสัตว์อะไรจะไป. ที.ม. (อรสร) มก. ๑๙/๑๐๕
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More