อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก หน้า 167
หน้าที่ 167 / 370

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในบทนี้นำเสนออุปมาอุปไมยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้สอนพระราหุลเกี่ยวกับการตระหนักถึงคุณค่าและการละความเห็นผิด โดยใช้ภาพเปรียบเทียบที่หลากหลาย เช่น ชายเลี้ยงหมา, นักลงสลาก, และการเลือกของมีค่า เป็นต้น ซึ่งทุกเรื่องล้วนสื่อสารถึงการทำความเข้าใจในชีวิตและการปลดปล่อยจากความไม่รู้ ท่านจึงสอนให้หลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดในสิ่งที่เห็น และปล่อยความรู้สึกที่ไม่ดีทิ้งไป เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และเติบโตทางจิตวิญญาณ

หัวข้อประเด็น

-การตระหนักถึงคุณค่า
-การละความเห็นผิด
-การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
-พระไตรปิฎก
-การสอนธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

666 อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก ๒.๑๒ เปรียบเหมือนชายเลี้ยงหม คนหนึ่ง ไปส่งบ้านอื่นเห็นคน (อาจารย์) แห่ง ที่เขาถิ่นไว้เป็นอันมาก ก็คลี่ผ้าห่มออก เอากุ้งแห้งใส่แล้วนอนเหนื่อยศรีษะแ ท่ระทางฝนตก คุณนั้นก็ไหลเลอะเปรอะไป คนทั้งหลายจึงพากันนิตเตียนว่า เป็นบ้าหรือ ไปแถกอ่าคุณมาทำไม เขากลับตอบว่า ท่านต่างหากเป็นบ้า เพราะของที่แบกมานี้เป็นอาหารของหมู พระองค์ก็เปรียบเหมือนอย่างนั้น ของจสละความเห็นผิดนันเสียเถิด. ที่ปา. (เณร) มก. ๑๔/๑๓๙ ๒.๑๓ เปรียบเหมือนนักลงสลาก ๒ คน เล่นสลากกัน คนหน่หลักอิ่มลูกไท่ผมถึงตัว (ลูกสลากจะทำให้แพ้) อีกคนหนึ่งบอกว่า ท่านชนะเรือย่างเดียวขอชูวอลให้ข้าพเจ้าทำพิธีบ้าง คนชน่จะส่งให้ไป นักลงคนที่ ๒ จึงเอาขี้พิทาลูกสลาก เมื่อเล่นครั้งที่สองนักลงสลากคนแรกก็กลิ่นลูกโทษาที่มาถึงนันอีก และตายเพราะกลิ่นยาพิษเข้าไปด้วย พระองค์ก็เปรียบเหมือนนักลงสลากที่กลิ่นยาพิษไปกับลูกสลากด้วย ของทรงละความเห็นผิดนันเสียเถิด. ที่ปา. (เณร) มก. ๑๔/๑๓๙ ๒.๑๔ เปรียบเหมือนชาย ๒ คน ชวนกันไปยืนชมนกเพื่อหาทรัพย์ ไปพบป่านในระหว่างทางก็หาป่าเดินทางไป ครั้งไปพบด้วยที่จากบ้าน คนหนึ่งเห็นด้วยมีราคาว่า ก็ถึงบ้านห่อด้ายไปอีกคนหนึ่งไม่ยอมทั้งคู่ ถือว่าแมกมาไกลแล้ว ผุกร่อนไว้แล้ว โดยนี้ก็ไปพลิกลัก ผ้าฝ่ายเหล็ก โล่ะ ดีบุก ตะกั่ว เงิน ทอง คนหนึ่งก็ของเก่าอี๋ของใหม่ที่มีราคาว่า แต่อีกคนหนึ่งไม่ยอมทั้งอี๋ว่าแมกมาไกลแล้ว ผุกร่อนไว้แล้ว เมื่อกลับไปถึงบ้าน บุตร ร่ายา เพื่อนฝูงของผู้แบกห่อป่าน ก็ไม่ชื่นชม แต่บุตร ร่ายา เพื่อนฝูงของผู้แบกห่อทองกลับมา ต่างชื่นชม พระองค์จะเป็นอย่างผู้แบกห่อป่าน ของทรงละความเห็นผิดนันเสียเถิด. ที่ปา. (เณร) มก. ๑๕/๑๘๕ ๒.๑๕ คงามเป็นพรานนี้ เราได้ละแล้ว เหมือนงูกลอกก่อตน หรืเหมือนต้นไม้อันเขียวอิ่ม ผลใตเหลืองทิ้ง จะนั่น วันนี้เราจะความเป็นพรานได้. ขุ.ชา. (โพธิ) มก. ๑๐/๕๕ ๒.๑๖ ภูผูท้หลาย พวกเธอจงปลดเปลื้องราขะ และโทษเสี ย เหมือนมะลิครือปล่อยดอกทั้งหลายที่เหยียบเสี ย ฉะนั้น. ช.ธ. (โพธิ) มก. ๓๙/๓๙๑ ๒.๑๗ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปหาพระราหุลซึ่งกำลังพักอยู่ ณ ปราสาทชื่อ อัมพสุวิกา ขณะพระองค์ทรงกล้างพระบาท ทรงเหลือไว้ในภาชนะหน่อยหนึ่ง ริบสั่งเรียก พระราหุลมาพิจารณาดูนั่น แล้วทรงแสดงเปรียบเทียบว่า ผู้เป็นสมณะถ้าไม่มีความละอายกล่าว
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More