การเปรียบเทียบในคำสอนของพระพุทธเจ้า อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก หน้า 146
หน้าที่ 146 / 370

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้สำรวจคำสอนของพระพุทธเจ้าผ่านการเปรียบเทียบต่าง ๆ เช่น การเป่าแตร การศึกษาเกี่ยวกับการเกิดและการดำรงอยู่ รวมถึงความมีชีวิตชีวาซึ่งเกิดจากองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ทำให้สามารถเคลื่อนที่และรับรู้ได้ พระองค์ยังได้แสดงให้เห็นว่าชีวิตมนุษย์มีน้อยกว่าขนาดของฝุ่นที่ปลายเล็บ เมื่อเทียบกับกาลอวกาศ ทำให้เราเห็นค่าของการเกิดในโลกมนุษย์นี้ และเสนอให้เราเข้าใจในความสำคัญของการกระทำและการเลือกที่ถูกต้องในการใช้ชีวิต เพื่อไม่ทำให้เสียโอกาสที่ได้มาเหมือนกับเด็กที่พยายามหาวิธีจุดไฟอย่างไม่ถูกต้อง ทำให้ฉุกคิดถึงการศึกษาและความเข้าใจในธรรมของพระพุทธเจ้าเหนือโลกแห่งความจริง

หัวข้อประเด็น

-การเปรียบเทียบในคำสอน
-ความเข้าใจในชีวิต
-การสอนธรรมของพระพุทธเจ้า
-องค์ประกอบของการดำรงชีวิต
-ความสำคัญของการทำความเข้าใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๑๕ อุมาอุบาไม่จากพระใครชุก คุณเป่าสังข์เห็นว่า คุณเหล่านั้นเป็นคนบ้านนอก เป็นคนเขลา หาเสียงส่งโดยไม่แยแสคาย จึงยับยั้งขึ้นมาเป่า ๓ ครั้ง ให้เห็นแล้วก็หลีกไป คนเหล่านั้นจึงรู้ว่าส่งนี้ประกอบด้วยคน ประกอบด้วยความพยายาม ประกอบด้วยลม จึงส่งเสียงได้ ถ้าไม่ประกอบด้วยเหตุเหล่านั้นก็ เปล่งเสียงไม่ได้ กายก็เช่นเดียวกัน ประกอบด้วยอาย โออุ่น วิญญาณ จึงก้าวเดิน ถอยหลัง ยืน นั่ง นอนได้ เห็นรูป ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส สุขด้วยโผนุสพะ รุ่งธรรม (อารมณ์ที่เกิดขึ้นใจ) ได้ ถ้าไม่ประกอบด้วยสิ่งเหล่านั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ม. (เถระ) มก. ๑๔/๑๓๓ ๓.๑๒ พระเจ้าปายาสิสดารียังต่อไปา เคยตรัสสั่งให้ลงโทษโรที่ฆ่าได้ โดยให้ตัดผิวหนัง ตัดหนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เศษในกระดูก เพื่อฅฅนดู ถีชะ จึงไม่ทรงเชื่อว่าโลกนี้มีเป็น ต้นเหตุ พระเถรทูลเปรียบเทียบว่าว่า ชฎิล (นักบวชเหล่าเมฆเป็นเชิง) ผู้ซาโฟรปะห์อยู่ในภี มุขด้วยไม้ในเป่า พวกเดินทางพักแรมชาวชนบทคะหนึ่ง ออกจากเดินทางมาพักแรมคืนรอบอาศรม ของชฎิลผู้ชา ไฟน แล้ววาไปว่าไปได้ที่เขาพักแรมด้วยหวังว่าจะได้เครื่องใช้อะไรบ้าง ในนั้น (ที่เขาทั้งแต่จะเป็นประโยชน์แก่ชฎูลผู้อื่นา) เมื่อเข้าไปเห็นเด็กแดงๆ คนหนึ่งเป็นเด็ก ชายอรหายอยู่ จึงนำนำเลี้ยงไว้จนเติบโต ม อายุ ๑๐ ปี หรือ ๑๒ ปี ต่อมากชฎูลมีระมัะที่จะต้องไป ในชนบท จึงเรียกเด็กมาส่งให้บชไฟ (คอเอาพิณใสในกองไฟ) อย่าให้ได้ ถ้าฟได้นิ ไม้ อยู่นี้ ไม้มโอยู่ยู่ จุดไฟบ่ดิ่ ดุนซาใอ่ไฟต่อไป เมื่อส่งเสร็จแล้วจังไปแล้ว เด็กนั้นเล่นเพลินไป ไฟใด ดบ เด็กคิดถึงคำัง จึงเอามิดากาไม้ไฟให้ได้ไฟ จึงไมได้ไฟออกเป็น ๒ ซีก ๓ ซีก ๓ จีกน ๒๐ ซีก ทำเป็นชิ้นๆ ใครอกราด แล้วเอามาโปรยตามลำดับหวังว่าจะได้ไฟ แต่ก็ไม่ได้ ชฎิลกลับมาเห็น เช่นนั้น ถามทราบความแล้ว จึงคิดจะเด็กนี้น้อยอ่อน ไม่ฉลาด จะหาไฟโดยวิธีที่ไม่ถูกได้อย่างไร จึงเอาไม้สไพลามาสให้เด็กดึงวิธีทำให้ไฟติด พระองค์เช่นเดียกน ทรงนการอิ่นี โดยวิธีที่ไม่ถูก ในที่สุดได้แสดงและให้พระเจ้าปายาสิทรง ละความเห็นผิดคนเสย ที่ม. (เถระ) มก. ๑๕/๑๓๓ ๓.๑๓ พระผู้พระภาคเจ้าทรงช้อนฝุ่นเล็กน้อยไว้ที่ปลายพระนาฬ แล้วตรัสสภามิกุฑทั้ง หลายว่า ฝุ่นปลายเล็บกับมหาปฐึ ออย่างไหนมากกว่ากัน วิญญู่ทัศน์ตอบว่า ฝุ่นในมหาปฐึมีประมาณกว่า ย่อมไม่อาจเทียบเคียงได้ พระบรมศาสดาตรัสต่อว่า สัตว์ที่มาเกิดในโลกมนุษย์นี้มกว่า สัตว์ที่ไปเกิดในกำเนิดอัน เปรียบเหมือนฝุ่นที่ปลายเล็บมีน้อยกว่ามหาปฐึ ทรงแสดงให้ญาณทั้งหลายเป็นภูมิปัญญา สังฆนิ สัง.นิ. (พุทธ) มก. ๒๒/๒๒๗
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More