ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒๕๙๙
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๑๐.๖ คนเหล่านั้น อย่าได้เห็นเราเลย และเราอย่าได้เห็นคนเหล่านั้นเลย
ดู่อนสารินตุร เผยงเหมือนเนื้อที่เกิดในป่า เหมือนมนุษย์ทั้งหลายแล้วกิงหนีจากไปสูป่า จากชุ่มไปสูชุ่ม จากที่กลุ่มไปสู่กลุ่ม จากที่ดอนไปสู่ดอน แม้ฉะได ดูก่อนสารินตุร เราก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ม.มู. (พุทธ) มก. ๑๘/๕๓
๑๐.๗ เนื้อในป่าที่บุคคลไม่ผูกไว้แล้ว ย่อมไปหากินตามปรารถนา ฉันใด นรชนที่เป็นญาติ เมื่อเห็นธรรมอันให้จึงงความเสร็จ พึงเที่ยวไปแต่ผู้เดียว เหมือนนอเรด ฉันนั้น
ขุ.จ. (อรรถ) มก. ๑๓/๖๒๕
๑๐.๘ มคฺในป่าอันเครื่องผูกอ gìอรมีได้ผูกไว้ ย่อมไปเพื่อหาอาหารตามความประสงค์ ฉันใด นรชนที่เป็นญาติ เมื่อเห็นธรรมอันให้จึงงความเสร็จ พึงเที่ยวไปแต่ผู้เดียว เหมือนนอเรด ฉันนั้น
ขุ.จ. (ปิฎก) มก. ๓๒/๖๒
๑๐.๙ เราจักละราชสมบัติออกบวช เหมือนดวงพระจันทร์สัญจรไปในท้องฟ้าที่บริสุทธิ์ ฉะนั้นนั่น
ขุ.ชาต. (โภติ) มก. ๕/๑๒๓๒
๑๐.๑๐ ภาชนะอันเต็มด้วยน้ำก็ไม่ชวนด้วยครั่ง ฉันท์ สีเขียวหรือสีเหลืองอ่อน บุรษิฏา ติมองดูจากด้านหน้าของตนในขณะนั้นเต็มด้วยน้ำนั้น พึงรู้เห็นตามเป็นจริง แม้นฉันใด สมัยใด บุคคลอิฉันมากระไมกลุ่มรุ่ม อนามากระไมครองบ้างออยู่ และย่อมรู่ชดตามเป็นจริง ซึ่งธรรมเป็นเครื่องสลัดออกแห่งการรกลุ่มรามระที่เกิดขึ้นแล้ว สมัยนั่น บุคคลอิฉันอ้วนเห็นตามเป็นจริง แม้ซึ่งประโยชน์นตน แม้ซึ่งประโยชน์ผู้อื่น แม้ซึ่งประโยชน์ทั้งสองฝ่าย มนต์แม้ไม่ทำการสายยตลอดอกานท์แเด่มแจ้ง ไม่ต้องกล่าวถึงมณีที่ทำการสายย ฉันนั้นเหมือนกัน
อัง.ปัญจ. (พุทธ) มก. ๓๖/๔๓๗
๑๐.๑๑ ต้นไม้นั้นยืนต้นส่งงาม เหมือนภูเขาแก้วมิใลน เพราะตัวเองไม่มีผล ส่วน มะม่วงต้นนี้ถึงความอยสยบอย่างนีเพราะออกผล แม้ทำกลางเรือนนี้เช่นกันก็ยืนต้นมะม่วงที่ออกผล ส่วนการบรรพชาเป็นเช่นกันกับต้นไม้ไม่มีผล ผู้ทรัพย์นันแหละมิยุตี ส่วนไม่มีทรัพย์ไม่มีภัย แม้เราก็ควรเป็นเหมือนต้นไม้ไม่มีไม่มีผล
ขุ.ช. (ทั่วไป) มก. ๙๕/๑๘๔๘