ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๕
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๓๔. พระเจ้ามิลินทร์สโมสรพระนาคเสนว่า ผู้ที่ไปเกิดใหม่นั้น ไม่ได้ก้าวอย่างไป จะปฏิบัติฉันได้อย่างไร
พระนาคเสนุตลอดว่า บูรณะอาประทีบิมตามต่อประทีบ ประทีปใหม่ไม่ได้กว่าจากประทีบเก่า เมื่อผู้เรียนวิชาเลข และศิลปะต่างๆ วิชาเลข และศิลปะต่างๆ ไม่ได้ก้าวอย่างจากอาจารย์ ผู้ที่จะไปเกิดใหม่นั้น ไม่ได้ก้าวอย่างไปแต่ปฏิสันนิได้
มิลิน. ๑๑๐
๓๕. พระเจ้ามิลินทร์สโมสรพระนาคเสนว่า ก่อนศีคลองเท่าระสาทั้งจากพระมหโลกถึงโลกมนุษย์ใช้เวลา ๔ เดือน ภูษาผู้มุ่งทรายจากชมพูทวีปไปพระมหโลกเหมือนบูรณะผู้กำลังเหยียดแขน
พระนาคเสนุตอบว่า ท่านเคยนึกถึงกำเนิดที่อยู่ห่างไกลออกไปไหม ใช้เวลานิดเดียว
มิลิน. ๑๑๓
๓๖. พระเจ้ามิลินทร์สโมสรพระนาคเสนว่า คน ๒ คน คนหนึ่งตายไปเกิดในพระมหโลกอีกคนหนึ่งไปเกิดที่เมืองกัลสิมะใครไว้ก่อนกัน
พระนาคเสนุตอบว่า มหาบุตรแลดูตา ดูดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ก็เห็นเร็วกว่ากัน
มิลิน. ๑๑๓
๓๗. พระเจ้ามิลินทร์สโมสรพระนาคเสนว่า ผู่ไปสู่อีกนับจะอะไรส่ออะไร
พระนาคเสนุตอบว่า เสียงอาเทปไงถึงพระกรรณของมหาบุตรนั่นส่ออะไร
มิลิน. ๑๒๒
๓๘. พระเจ้ามิลินทร์สโมสรพระนาคเสนว่า ไฟรถร้อนจนฉะลายหนี้แต่ทำไมสัตว์ร้อนอยู่ได้
พระนาคเสนุตอบว่า นายกุ่ง ไฟมันกินราวยังย่อยแหละยิ่งไปได้ แต่ลูกนายลูกไก่ป่าอยู่ในท้องไม่ย่อยยันเพราะกรรมคุ้มครองไว้
มิลิน. ๑๐๓
๓๙. พระสัมมาสัมพุทธเจ้าร้องช้อนฝุ่นไวปลายเล็บ แล้วตรัสเรียกกิขุมาว่า ฝุ่นที่ซ้อนไว้ในปลายเล็บกับแผ่นดินใหญ่อย่างไหนมากกว่ากัน
ภิฏฐวัตว่า ฝุ่นในเล็บเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแผ่นดินใหญ ย่อมไม่ถึงซึ่งการับเปรียบเทียบหรือแม้ส่วนเสี้ยว
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า สัตว์ที่จุติจากพวกมนุษย์แล้วกลับมาเกิดในพวกมนุษย์น้อย โดยที่แก่สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ไปแล้วกลับไปเกิดในร่มกว่านี้มากกว่า
สังฆ. (พุทธ) มก. ৩๑/๕๐๒