ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓๓๙
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๒.๑.๕ กายในของเราเป็นภายบากหนอ อันดีติ และสุขอย่างไพบูลย์ต้องแล้ว ย่อมเลื่อนลอยได้เหมือนนุ่นที่ถูกลมพัดไป ฉะนั้น
ข.เถร (เถอะ) มก. ๑๓๘๘/๙๔
๒.๑.๕ เปรียบเหมือนช่างหมอ หรือ ลูกมือของช่างหมอ ผู้ฉลาด เมื่อบวดินดีแล้ว ต้องการภาชนะชนิดใดๆ พึงทำภาชนะชนิดนั้นๆ ให้เสร็จได้
เปรียบเหมือนช่างงา หรือ ลูกมือของช่างงา ผู้ฉลาด เมื่อแต่งงานดีแล้ว ต้องการเครื่องงา ชนิดใดๆ พึงทำเครื่องงานั้นๆ ให้สำเร็จได้ ฉันใด ภิกขุณผู้นั้นแล เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีเมล็ด ปราศจากอุปัทว่าวะ ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโมจิตใจไปเพื่อแสดงคุณค่า เฉพาะลักษณวิธีหลายประการ คือ คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรารถนาดีได้ ทำให้หายไปได้ ทะลุพากำเพลิงเขาไปได้ไม่ติดขัดเหมือนในที่ว่างก็ได้ ผุดขึ้น ดาลในแผ่นดินเหมือนในน้ำก็ได้ เด่นน่าไม่แตกเหมือนดินน่าได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ ลุบท่าหรือนิยมีก็มีฤทธิ์อานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรมโลกก็ได้
ที.สี. (พุทธ) มก. ๑๑/๑๒๘
๒.๑.๖ บุคคลหรือปุยฝ้าย ซึ่งเป็นอ๊อกาธูที่เบา ย่อมลอยจากแผ่นดินขึ้นสู่กากได้โดยไม่ยากเลย ฉันใด สมัยใด คาถาตั้งกายลงในจิต หรือตั้งจิตลงไว้ที่กาย ก้าวลงสู่สัญญา และ ละสุขสัญญาอยู่ สมัยนั้น กายของคาถาใดอย่าลอยจากแผ่นดินขึ้นสู่กากได้ โดยไม่ยากเลย ฉันนั้น เหมือนกัน
ส่ง.ม. (พุทธ) มก. ๑๓/๑๒๒
๒.๒ พิษโลหิต (หุพิยะ)
๒.๒. เปรียบเหมือนบูรเดินทางไกล เขาว่าพึ่งได้ยินเสียงกลอง เสียงตะโกน เสียงสังข์ เขาจะพึ่งเข้าใจ เสียงกลอง เสียงตะโกน เสียงสังข์ ฉันใด ภิกขุณผู้นั้นแล เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีเมล็ด ปราศจากอุปัทว่าวะ อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโมจิตไปเพื่อพิษโลหิต เธออ้อมได้ยินเสียง ๒ ชนิด คือ เสียงพิษ และเสียงมนุษย์ที่อยู่ไกล และอยู่ใกล้ ด้วยพิษโลหิตอันบริสุทธิ์ ล่วงโลหิตของมนุษย์
ที.สี. (พุทธ) มก. ๑๑/๑๒๙