ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาจากพระไตรปิฎก
๓.๗ ภิกษุผู้อดบวชเขา ย่อมไม่หวั่นไหวเพราะความสิ้นโมะ เหมือนนกเขาหินไม่หวั่นไหวตั้งอยู่ดั้ม ฉะนั้น
ชู.อุ. (พุทธ) มก. ๔๕/๓๒๓
๓.๘ ธรรมดาป๋อย่อมเป็นสถานอันบรรลุที ฉันใด ภิกษุผู้วรารความเพียรควรเป็นผู้บรรลุ ฉันใด
มิลิน. ๔๕๖
๓.๙ ธรรมดาป๋อย่อมเป็นว่าส่งเปล่าจากผู้คน ฉันใด ภิกษุผู้วรารความเพียรควรเป็นผู้จากอวกิเลส ฉันใด
มิลิน. ๔๕๖
๓.๑๐ ภิกษุใดเสมอด้วยแผ่นดิน เปรียบด้วยเสาเข็ม คงที่ มีกำลังดี มีกำลังดั่งเปิดตนไปปรกแล้ว เหมือนหว่านบำปราศจากเบื้องตม ย่อมไม่ยินดี ยืนร้าย สงสารทั้งหลายย่อมไม่แกกิ์กุญ
ชู.ธ. (พุทธ) มก. ๔๑/๓๙๗
๓.๑๑ ธรรมดาพาย่อมย่อมุพัดหมัดไม่ให้พื้น ฉันใด ภิกษุวรารความเพียรควรพิจารณาสังขารในป่า ขยับเล่งทำให้รำบาก ฉันใด
มิลิน. ๔๔๘
๓.๑๒ ธรรมดาเมย่อมระงับอาหงเหอไศซิ่งเกิดแล้ว ฉันใด ภิกษุวรารความเพียรควรระงับเหงื่อไคล คือ กิเลส ฉันใด
มิลิน. ๔๕๗
๓.๑๓ ธรรมดาอากค่อยอ่อนไม่มีใครรับต้องให้ ฉันใด ภิกษุวรารความเพียรไม่ควรปล่อยให้เลสียดจิฉ ฉันใด
มิลิน. ๔๙๑
๓.๑๔ บุคคลผู้สงบ งดเว้นจากการทำความชั่ว พูดด้วยปัญญา ไม่พูดช้า ย่อมกำจัดบาปธรรมทั้งหลาย เหมือนลมผลิบไม่รีวงหลันไป ฉะนั้น
ชู.เถร. (เถร) มก. ๕๐/๕๕
๓.๑๕ เราแสดงหาช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบจิงใจจ้องเทียวไปสูงสาง มีชาตเป็นเนกความเกียดบ่อยเป็นทุกข์ แน่นอนช่างผู้ทำเรือน เราพบท่านแล้ว ท่านจะทำเรือนอีกไม่ได้ ชีโครงทุกช่องท่านร่ายเทียมเสียแล้ว ยอดเรือนเรือขอเสียแล้ว จิตของเราถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว เพราะฐานบวรจธรรมเป็นสิ้นนิตานแล้ว
ชู.ธ. (พุทธ) มก. ๕๒/๕๒