ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓๓
อุมบาอุบไมจากพระโคดม
๒.๔.๑๖ ข้าแต่ท่านพระโคดม เปรียบเหมือนดั่งต้นสาละใหญ่ในทิลำหรือนิคม ถึง ใบ เปลือกสะเกิด และกระพี้ของต้นสาละใหญ่จะหยุดร่วงกะเทาะไป เพราะเป็นของไม่เที่ยง สัมมะต่อมา ต้นสาละใหญ่นัน่ ปราศจาก ถึง ใบ เปลือก สะเก็ด และกระพี้ คงเหลืออยู่แต่มูลอันเป็นสาระล้วนๆ
ม.ม. (ทั่วไป) มก. ๒๐/๔๓
๒.๔.๑๗ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายืนยันพร้อมด้วยเสียง ทรงแสดงธรรม ในกาลนั้น ลลา และลักษณะของเดียราว์กันหลายก็เสื่อมไป เดียราว์ล่านั่งเสื่อมจากลา และลักษณะแล้ว ดึงพังห้องทั้งหลายในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ฉะนั้น
ม.ม. (อรรถ) มก. ๑๘/๑๓
๒.๔.๑๘ อึ่ง การบัญญัติสาหวะ ย่อมมีแกะพรากทั้งหลายเท่านั้น ชื่อว่าเขตแดนแห่งสิขาเขาย่อมไม่มีแกะสาหวะสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย เหมือนอย่างว่า ดอกไม้ และผลไม้ที่มีอยู่ในพระราชอุทยาน คนหล่าอื้นเก็บดอกไม้ และผลไม้เหล่านั้นไปอนมีโทษ ส่วนพระราชาชทรงบริโภคได้ตามพระราชอิจฉาย ข้อนี้ก็อุปไมยเหมือนอย่างนั้น
ม.ม. (อรรถ) มก. ๒๑/๒๑
๒.๔.๑๙ พระผึ้งพระภาคเจ้าทรงให้เกิดความอุตสาหะในการถามแล้ว จึงทรงเจาะฉลายความเคลือบแคลน ชนเหล่านั้นแม้สิ้น มาถึงพระผู้พระภาคเจ้าแล้วก็เสื่อมคลายไป เหมือนคลื่นในมหาสมุทรกลายฝั่งกลายไปฉนี้
ที.ส. (อรรถ) มก. ๑๒/๒๙
___
๑๓. คุุณของพระธรรม
๓.๓ ราชจิตดรงดามยังค้ำคาร่าได้ อธิบาย แม้ว่ากายก็เข้าสิงความคาร่ามา แต่ธรรมของสิปบูชไม่ได้ลงความคาร่า
ขุ.จรียา. (ทั่วไป) มก. ๗๔/๕๕๕
๓.๒ ฟ้าว และแผ่นดินโลกล้น ฝั่งข้างโน่นของมหาสมุทรเขากล่าวว่ากว่าไกล ข้าแต่พระราชาธรรมของสิปบูช และธรรมของอสิปบูช นักปราชญ์พึ่งกล่าวว่า โลกลักษณ์นั้น
ขุ.ชา. (ทั่วไป) มก. ๑๒/๒๕