ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๒.๒.๒๗ บำเพาะพระเนตรงองข้างของพระพุทธองค์สีแดงดี น่าดู น่าชม เหมือนสีปิกแมงทับทิมทอง
ขุ.จู. (อรรถ) มก. ๒๗/๗๘
๒.๒.๒๘ พระพุทธรัศมีมีวรรณะ ๖ ซึ่งแผ่ฉวัดเฉวียนไป จึงดงามอย่างเหลือ เหมือนต้นปาริฉัตร ดอกบานสะพรั่งทั้งต้น เหมือนบัวที่มีดอกบัวหลงเย็นแล้ว เหมือนเสาระเนียดยทองใหม่ สวยงามด้วยรัศมีรัตนะต่างชนิด เหมือนท้องฟ้ามระยับด้วยดังดาว
ขุ.พุทธ. (อรรถ) มก. ๓๓/๑๒๑
๒.๒.๒๙ พระโพธิสัตว์ประทับนั่งสำรวจโลกาด้าน คตะวันออกอยู่ มีพระสีวะรมเสมือนยอดภูเขาทองซึ่งเรืองรองด้วยแสงสนธยา
ขุ.พุทธ. (อรรถ) มก. ๓๓/๑๒๒
๒.๓๐ พระชนเจ้าทรงมีอาจจะนั่งดั่งพระยาช้างส่งงานในอาการเสด็จ พระพุทธดำเนินงานน่า ทรงยังมุขโลกกับทั้งเทวโลกก็ไร้รังสีส่งราม ดั่งพระอายสวาส ดั่งโสรสราช สีที่เที่ยวไปถึงสีทอง ทรงยังสัตว์เป็นอันมากให้ยินดี เสด็จถึงบรื่นในประเสริฐสุด
ม.ม. (อรรถ) มก. ๒๐/๖๑
๒.๓๑ พระเจ้ามิลินทร์สราจามพระนาคเสนว่า ธรรมบุตรยอมคล้ายมารดา บิดา พระพุทธมาจดา และพระพุทธิดา ได้ตั้งพระนครฯ ๒๗ ประการหรือไม่ พระนาคเสนูล ตอบว่า ไม่ อดอุบัติจากโคลน และนำ สี กลิ่น รส ของดอกบัวไม่เหมือนกับโคลน และนำ
มิลิน.๑๑๑
๒.๓๒ พระภาคเจาจุรงเรืองอยู่ ณ บนภาค เหมือนดวงจันทร์ในท้องฟ้า ฉะนั้น
ขุ.พุทธ. (อรรถ) มก. ๓๗/๗๔
๒.๓.๓ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายอุปมาดังพระจันทร์ ย่อมปรากฏเหมือนประทีปยืนอยู่ตรงหน้าแห่งสัตว์ทั้งหลาย ผู้ฝืนอยู่ในที่ดีนึง เหมือนพระจันทร์อยู่แล้วในกลางหวา ย่อมปรากฏแก่ปวงสัตว์ว่า พระองค์อยู่ในศรีธชะของเรา
ขุ.ธ. (อรรถ) มก. ๔๑/๙๙