ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปมาอุปไมยจากพระไตรปิฎก
๑. ภิกษุวรรคงาม คือ มีศีล สมาทานในศาลาขาว
๒. ภิกษุเข้มแข็ง คือ มีความเพียร
๓. ภิกษุมิชเชวา คือ รู้ทันถึงความเป็นจริงในอริยสัจ ๔
องค์ ๓ แห่งพ่อค้าที่ได้แก๋
๑. เป็นผู้มีดวงตา คือ รู้แน่ชัดว่าควรซื้อขายอย่างไร มองเห็นต้นทุนหรือกำไร
๒. เป็นผู้ลลาด เข้าใจซื้อขาย
๓. ถึงพร้อมด้วยที่พึ่งอาศัย คือ รู้จักกันดักตระกูลคฤถ์ที่เป็นแหล่งเงินทุน ทั้งพี่พาอาศัยได้
ธรรม ๓ แห่งภิษุได้แก่
๑. เป็นผู้มีดวงตา คือ รู้เห็นแนวริสัล ๔
๒. เป็นผู้มีความเพียร
๓. ถึงพร้อมด้วยที่พึ่งอาศัย คือ เข้าหาภิกษุเป็นพูสุด หนั่นได้ถามปัญหาในธรรมทั้งหลาย
องค์ ๑ (พุทธ) มก. ๑๔/๑
๒. ภิกษุกับการศึกษาธรรม
๒. ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุดตะ… เวลาละ ธรรมเหล่านั้นเป็นธรรมอันภิษุนั้นฟังเนืองๆ คงอปาก ขันใจ แทนตลอดด้วยดี ด้วยทุจริน เองงิมมีต่อหลิมเมื่อกระทำกา๎ ยอมเข้าเทพนียายหมู่หนึ่ ง บางแห่งธรรมทั้งหลายย่อมไปปรากฎแก่เธอ ผู้มีความสุขอยู่ในภาพนั้นเลย
แต่ภิกษุผู้อยู่ ถึงความชำนาญแห่งจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท เธอมีความบริษัทอย่างนี้ว่า ในกาลก่อนเราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด นี่คือธรรมวินัยนั้น สตัขเกิดขึ้นช้าแตกต่างจากธรรมหลาย บรร พูลาดต่อเสียงกลอง เขาเดินทางใกล้ก็ได้ยินเสียงกลอง เขาไม่พึงมีวาสนา หรือเคลือบแกล้งว่า เสียงกลองหรือไม่เลย ที่แท้พึงรังควาดความตกลงว่าเสียงกลอท์นั้นโดย ฉันใด ภิกษุคันนั้นเหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯ ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณโดยเร็วพลัน
องค์จุตุกา (พุทธ) มก. ๑๕/๕๕๐