อาบัติในพระวินัยและความหมายของการละเมิด ปัญจมสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย ปริวาร วัณณนา หน้า 50
หน้าที่ 50 / 288

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายเกี่ยวกับอาบัติในพระวินัย โดยแยกประเภทอาบัติออกเป็น 3 กองคือ อาบัติที่ทำอันตราย, อาบัติที่มีโทษตามพระบัญญัติ, และอาบัติที่ไม่อันตราย นอกจากนี้ยังพูดถึงความหมายของการละเมิดและความเสี่ยงที่เกิดจากการกระทำเช่นนั้น การเข้าใจในอาบัติจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถรักษาความบริสุทธิ์ในทางศาสนาได้ การสำรวจเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาเห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามพระบัญญัติซึ่งมีผลต่อสรรค์และนิพพาน

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของอาบัติ
-ประเภทของอาบัติ
-การละเมิดในศาสนาพุทธ
-ผลกระทบต่อสรรค์และนิพพาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ปัญญาอมิตตะปลาสัก อรรถถกพระวินัย ปริวาร วันฉนา- หน้าที่ 764 บทว่า สาวาสถ ได้แก่ พึงรู้จักอบัตที่เหลือ เว้นปราชัย เสียง. บทว่า อนวยสถ ได้แก่ อาบัติปราชิก. อาบัติ ๒ กอง หายรั่ว อาบัติที่เหลือ ไม่หยาบรั่ว. อาบัติที่ยังทำคืนได้ ๒ หมวด เช่นกับอาบัติที่ส่วนเหลือ ๒ หมวด อาบัติที่เป็นเทศนามมี ๒ หมวด รวมเข้ากับอาบัติเทพ ๒ หมวด. อาบัติทั้ง ๓ กอง ชื่อว่า ธรรมทำอันตราย. อาบัติที่กุแกล้ง ละเมิด ยอมทำอันตรายแก่สรรค์และนิพพาน เพราะฉะนั้น อาบัติ ที่กุแกล้งละเมิด จึงชื่อว่าทำอันตราย. ส่วนอาบัติมี่โทษตามพระบัญญัติ อันถกผู้ไม่รู้ข้องแล้ว หาทอันตรายแก่สรรค์และนิพพานไม่ เพราะฉะนั้น อาบัติที่มีโทษ ตามพระบัญญัติซึ่งชื่อว่าไม่อันตราย. [๔๕๐] ทางแห่งสรรค์และนิพพาน อันถือกรมายากบิตไม่ห้าม แล้ว แก่กิฬฎูผู้ต้องอันตรายกัมบัติแล้ว แสดงอาบัติที่เป็นเทสนา- คามีเสีย ออกจากอาบัติที่เป็นฐานกามามีเสียแล้วถึงความบริสุทธิ์ และผู้ตั้งอยู่ในภูมิของสามเณร ฉะนี้แล. อาบัติที่มีโทษทางโลก ชื่อว่า อาบัตที่ทรงบัญญัติพร้อมทั้งโทษ. อาบัติที่มีโทษตามพระบัญญัติ ชื่อว่า อาบัติที่ทรงบัญญัติไม่มี โทษ.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More