ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญา สมันตปาโล สามารถพระวันขึ้น ปรัสว วัดถนา - หน้าที่ 784
เมื่อทำวิถีกายทานประกอบกับวาจาแสดง อบัติเชื่อว่าออก
ด้วยกายที่เป็นทั้งเทศนามนิ่งฐานามี งูฐานา ช่อนออกในท่ามกลางสงฆ์ แต่ว่า เฉพาะอาบัติเป็นเทศนามนิ่งเท่านั้น ย่อมออก
ในท่ามกลางคณะและบุคคล
[ว่าด้วยองค์เป็นเหตุลงโทษและเพิ่มโทษ]
สงบว่า อาคมาย แชฏยะ ยามยง ว่า สงบงี้งั่งใจ
เพื่อความแน่นเข้า คือเพื่อความมั่นคง อธิบายว่า "สงบเมือ
ปรารถนา พึงลงอุโบสถให้เต็ม
ในคำว่า ออกซิ จ โหติ พาโล จ อบปาติโต จ นี้ มีความ
ว่า ไม่พึงลงโทษด้วยเหตุเพียงเท่านี้ ว่า "ผู้เป็นผู้ไม่รู้คุณธรรม
และอธรรม" หรือว่า "ผู้มีเป็นผู้ปกติตต์ ไม่รู้กอานติและมิโส
อาบัติ." พึงลงโทษแก่อกุญญูโดยอาบัติ ซึ่งมีความเป็นผู้โง่เป็นบุตร
และมีความเป็นไปให้ผู้ปกติตต์เป็นบุตร
ผู้ลงอาบัติ 2 กอง ชื่อว่า ผู้เสียดสติในอธิสิส.
ผู้ลงอาบัติ 5 กอง ชื่อว่า ผู้เสียดอาจาร.
ผู้ประกอบด้วยองค์ภิกษาก็ฎิจิต ชื่อว่าผู้เสียดภิกจิต.
พึงลงโทษแก่อกุญญูนนั้น ผู้ไม่เห็น ไม่ทำอัปบัติ และผู้ไม่
ยอมสละภิกูติเท่านั้น.