ปัญญาและการถามตอบในพระวินัย ปัญจมสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย ปริวาร วัณณนา หน้า 124
หน้าที่ 124 / 288

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงความหมายของปัญญาและบทบาทต่างๆ ในการตั้งคำถามและการตอบภายใต้กฎระเบียบของพระวินัย อธิบายถึงนิยามของคำว่าตกุมในบริบทของการถามตอบ รวมถึงตัวอย่างสิกขาบทที่เกี่ยวข้อง โดยยกพระผู้ภาคขึ้นมาเป็นกรณีศึกษา ทำให้เห็นการตอบสนองของพระองค์ต่อคำถามต่างๆ ด้วยความเข้าใจและหลักการที่ชัดเจน บทนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของปัญญาและการตรวจสอบคำถามในพระพุทธศาสนา.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของปัญญา
-การถามตอบในพระวินัย
-นิยามของตกุม
-บทเรียนจากพระผู้ทรงตัดสิน
-สิกขาบทที่เกี่ยวข้อง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ปัญญอมณ์ปลากาก อรรถกถพระวินัย ปริวาร วัณณะ - หน้าที่ 838 มีความว่า ปัญญาของท่านดี. จิรอยู่ ปัญญาเรียกว่า อุมงค์ เพราะผู้นั้นาก็มิ์ คือ อวิตชาทั้งอยู่. คำว่า ตกุม เป็นนิยามใช้ในอรรถคือเหตุ. ความว่า "ท่าน ถามเราเพราะเหตุใด, เพราะเหตุนี้ เราจักตอบแก่นท่าน." อีกอย่างหนึ่ง คำว่่า ตกุม เป็นนิยาม ใช้ในอรรถ คือออม รม. จริงอยู่ พระผู้พระภาคทรงรับคำ ด้วยคำว่า "เอาเด็ก." นี้ จึงทรงว่า "เราจักตอบ." เฉพาะ ๓ สิกขาบทนี้ คือ "คัดไฟเผา, มือเปื้อนอามิส, น้ำ ล้างมาตรมีเมล็ดข้าวสุก, ทรงบัญญัติในภคถชมบท. สองบทว่า ยนุตว์ อุปจํานฺมหามีความว่า {๕๔๕} ข้าพเจ้ ได้ลูกามปัญหาไกลพระองค์. บทว่า โน คือ แก้ข้าพเจ้า. สองบทว่า ตกุม พยากรณ์มีความว่า คำใด ๆ อันข้าพเจ้าได้ ทูลถามแล้ว คำนั้น ๆ อันพระองค์ได้ทรงแก้แล้ว. บทว่า อนุญฺญาตา ความว่า มิได้ทรงแก้ไข่งโดยประการอื่น. [วิปัด ๔] ชื่อว่า สีลวิปิต ย่อมไม่มีในปัญหาในคำว่า "เย ถฺุฏฐฉลสา สีลวิปติ..." นี้ แม้โดยแท้, ถึงกระนั้น คำว่า เย ถฺุฏฐฉล
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More