ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญามีตปลามาก อรรถถภาพพระวินัย ปิราว วัดนา - หน้าที่ 890
ท่านกล่าวว่า อุณฺมุนูปมาทน (ยังการขอให้เกิดตามขึ้น.)
๓ สิกขาบทมีกายสังกัดสิกขาบทเป็นคำ ท่านกล่าวตามรูปเดิมนั้นเอง.
๕ สิกขาบทนี้ พิธีรับว่า “เป็นบุพพกวาศ คือ บุพพประโยชน์ของเมถุนธรรม” ด้วยประกาศนี้.
อปโลกนกรรม ๔ นั้น ได้แก่ กรรมเป็นวรรคโดยอรรถเป็นต้น.
แม้ในกรรมที่เหลือ ก็เป็นนี้แผล.
หมวด ๔ สังมวด จิรวามเป็น ๖ ด้วยประกาศนี้.
หลายบทร พุทธะอดิตย์ตาย ปฏิปุโณ โธ มีความว่า
จริงอยู่ [๑๓๕] เมื่ออิริยบินอพระวินัย ธินฉัยด้วยขันติก
อย่างนั้น สงงในวัดนั้นย่อมแตกกันเป็น ๒ ฝ่าย. แมภุฒินี้ทั้งหลาย
ผู้ภาสิอวาทเป็นอยู่ ก็อาจเป็น ๒ ฝ่าย. พวกอญาสิกก็ อุบลภิภหา
ก็ดิ เด็กชายก็ดิ เด็กหญิงก็อ่อนเป็น ๒ ฝ่าย, แม้เหล่ารักนเทวคา
ของชนนลั้น ก็อ่อนแตกกันเป็น ๒ ฝ่ายเหมือนกัน. ต่อแต่นั้น
เทวตาทั้งหลาย นับภูมเทวาดาเป็นต้น จนถึงอนุญุตพรม ย่อมแตก
เป็น ๒ ฝ่ายด้วย.
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงกล่าวว่า “ภิกขุผู้อยู่เฉยด้วยขันติก
เป็นต้น ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อไม่เกี่ยวกุศลอันมาก ๆ ๆ ๆ เป็น
ผู้ปฏิบัติ เพื่อไม่เป็นประโยชน์ เพื่อไม่เกี่ยวดู เพื่อทุก ๆ คนเป็น
อำนาญ ทั้งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย."