ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญามีตะปลากิ า อรรถถภระวนิ ปริวาร วันนา - หน้าที่ 935
ถูกสงฆ์ยกวัตร เป็นสังฆามิตเสส แก่ภิขุทั้งปลาย มีพระโภคกลิกร
เป็นต้น ผู้ประพฤติดตามพระเทวตผู้นำลายสงฆ์ และเป็นปาจิตต์ัย
แก่นั่งจัดทบทักภิญญู เพราะไม่สละทิฐิสม
สองบทว่า ณ โวาทปุจฉา มีความว่า ภกุย่อมต้อง
อาบัติ ๖ มีว่าจะที่คนประกอบเป็นปัจจัย อย่างไร ? อย่างนี้ คือ
เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะอาชีวะเป็นการณ ภกุยมีความปรารถนา
มาก อันความปรารถนามกครองบำบัด อาดุลตรีบญุษบตแล
ที่ไม่มี ไม่จริง ต้องปราชิก เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะอาชีวะ
เป็นเหตุ [๕๕๓] ภกุยถึงความซักสี ต้องสงฆามิตเสส เพราะอาชีวะ
เป็นเหตุ เพราะอาชีวะเป็นการณ (อวดโดยปริโยวา) ภกุยได อยู่
ในวิหารของท่าน ฯ ฯ ต้องลดลักษย์ เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะ
อาชีวะเป็นบารณ์ ภกุยออกปากขอโทษนะประณีต เพื่อประโยชน์
แกตนฉัน ต้องปิติยิ้ม เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะอาชีวะ
เป็นการณ ภกุยออกปากขอโทษนะประณีต เพื่อประโยชน์แก่ตนฉัน
ต้องปฏิวาสนะ เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะอาชีวะ เป็นการณ
ภิญญูนี้ออกปากขอโทษนะประณีต เพื่อประโยชน์แก่ตนฉัน
ต้องปฏิเวทนิยะ เพราะอาชีวะเป็นเหตุ เพราะอาชีวะเป็นการณ
ภิญญูนี้ไม่อาพา ออกปากขอโทษนะประณีต เพื่อประโยชน์แก่ตนฉัน
ต้องทุกกูฎ
สองบทว่า งานนุตสุด คนสิสโส มีความว่า ภกุย่อมดูดลั้จัย
เพราะเนื้อนมนุษย์ ต้องทุกกูฎ เพราะอัปปิ้งสะที่หล่อ, เป็น
ปัจฉิมดี แก่กุยนิ่น เพราะกระเทียม