ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญจมนต์ปลามคา อรรถคาถา พระวินัย ปริวาร วินนา - หน้าที่ 937
สองบทว่า ปุณณุธ์ อภิรณฺณ อ มีความว่า ก็แอลอภิรณฺณ
ย่อมมีแก่สหธรรมิกทั้ง ๕ เหมือนกัน. จริงอยู่ วิจฉันโวหาร เพื่อ
ประโยชน์แก่บริวารมิยามตราและอิทธิเป็นต้น ของสหธรรมิกทั้ง ๕ นั่นแน่
เรียกวาอภิรณฺณ ส่วนวิจฉันโวหาร ของคฤหัสถ์ ย่อมจัดเป็นอัฏฏ-
กรรม (คือว่าคดี)
หลายบทว่า ปุณฺณนุํ วิจูจน์ โมณํ มีความว่า นี้ชื่อว่า
วิจูจน์ของสหธรรมิกทั้ง ๕ เหล่านั้นเอง ก็มีอยู่
สองบทว่า ปุณฺณสมฺจ รูปสมฺจ มีความว่า อภิรณฺณของ
สหธรรมิกทั้ง ๕ เหล่านั้นแต่ ที่ได้วิจฉันแล้ว ชื่อว่าเป็นอันรวบไป
สองบทว่า ปุณฺณบุญเจว อนุตฺตํ มีความว่า นี้ชื่อว่า
อนนาติ ย่อมมีแก่สหธรรมิกทั้ง ๕ เหล่านั้นเอง
หลายบทว่า ดีทิ ธานที โลภติ ความว่า ภิกษุย่อมงาม
โดยเหตุ ๓ มีสงฆ์เป็นต้น. จิรงอยู่ บุคคลผู้กระทำความละเม็ดแล้ว
กระทำคืนอาบัติที่ยังทำคืนได้ ในท่านกลางสงฆ์ หรือในท่านกลางคณะ
หรือในสำนักบุคคล ย่อมเป็นผู้มีศีลใหม่เดิม กลั้นอยู่ตามเดิม.
เพราะเหตุนี้ ท่านจึงกล่าวว่า "ย่อมงามโดยสถานต ."
[อานาปนากายในราตรีเป็นต้น]
หลายบทว่า เทว กายา รตฺโต มีความว่า ภิกษุ ต้อง
อานาปนากายายาวเป็นแดนเกิด ๒ อย่างในราตรี คือ เมื่อสำเร็รการ
ยืนมั้งและนอน ในหัตถบาตของบูรณะ ในเวลามิตา ๆ คำ ๆ ต้อง