พระวินัยปริวรรต: การวินิจฉัยและพิจารณาทางธรรม ปัญจมสมันตปาสาทิกา อรรถกถาพระวินัย ปริวาร วัณณนา หน้า 200
หน้าที่ 200 / 288

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นการวินิจฉัยในพระวินัยซึ่งเกี่ยวข้องกับความโกรธและความไม่รู้จักเหตุและมิใช่เหตุ โดยเน้นการเตือนให้เกิดสติและธรรมะในชีวิตประจำวัน การเป็นอาจารย์และการแสดงธรรมในกลุ่มเพื่อให้เกิดการเข้าใจและการพัฒนาตน รวมถึงการต้องพิจารณาให้เข้าใจว่าธรรมและอามิสมีความเชื่อมโยงกันอย่างไร การจัดการกับอารมณ์จะทำให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจและละทิ้งอารมณ์ที่ไม่จำเป็นในชีวิตได้ดีขึ้น.

หัวข้อประเด็น

-การวินิจฉัยในพระวินัย
-การจัดการกับอารมณ์
-การเป็นอาจารย์ในธรรม
-การเตือนให้เกิดสติ
-ความสัมพันธ์ระหว่างอามิสและธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - ปัญจม์สมันตปลาทก อรรถกถาพระวินัย ปริวรร เป็นกัน- หน้าที่ 913 แล้ว เพราะมีเหตุที่ก่อให้ผู้อื่นความโกรธเป็นต้นครอบงำแล้ว ย่อม ไม่รู้จักเหตุและมิใช่เหตุ ไม่สามารถจะตัดสินได้ [๒๕๔] หลากว่า อบิลมะ โหติ โสภ สาแตร มีความว่า เป็นผู้ให้มงง คือไม่เตือนให้เกิดสติ นั้น วิบากว่า เคลิบ คฤม คือปลุกอืออของใจรกและจำเลยเสีย ไม่เตือนให้ระลึก คำที่เหลือในอุทาหรณ์ท่านวัดนี้ ตั้งทั้งนั้นแล อุทธาหิกวัด วัดเปนาน จบ [ว่าด้วยผู้ถุน] วินิจฉัยในอธิฏฐิวุปสมวัตต์ พึงทราบดังนี้ :- สองบวกว่า ปุคคลดร โหติ มีความว่า ภูมิผู้ถึงดังเหตุดว่า "ผู้มีเป็นอุปายามของเรา, ผู้มีเป็นอาจารย์ของเรา" ดังนี้เป็นต้น หวังความชนะแก่อุปกคนั้น จึงแสดงอรรถธรรมว่าเป็นธรรม. สองบวกว่า สุงคตุ โหติ มีความว่า เมื่อวินิจฉัยไม่ละธรรม และวิบัยเสีย ย่อมเป็นผู้ว่าแห่งนักในสงฆ์. เมื่อถือเอาปัจจัยมีธรรมเป็นต้นวินิจฉัย ย่อมเป็นผู้ว่าแห่งนักใน อามิส. เมื่อไม่ถือเอาปัจจัยมีธรรมเป็นต้นเหล่านั้น วิจฉาตามธรรม ย่อมเป็นผู้ว่าแห่งนักในสัทธรรม.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More