ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปัญญามณีสนิทปลากกา อรรถกพระวินัย ปริวาร วันเวนา - หน้าที่ 790
ต้องอาบัติที่เป็นไปทางวจนะ ด้วยวาจา เมื่อแสดงอาบัติ
นั้นแลเสีย ชื่อว่าออกด้วยวาจา
ภิญญูผู้หลัก ย่อมต้องอาบัติที่จะพึงต้องตามจำนวนแห่งบน เพราะ
กายถูกเติมของสงที่ไม่กลาด้วยเครื่องลดาของตน และอาบัติที่จะพึง
ต้องเพราะนอนในเรือนร่วมกัน และเมื่อคืนแล้วรู้ว่าตนต้องแล้ว
แสดงเสีย ชื่อว่าเตือนแล้วออก แต่เมื่อคืนอยู่ ต้องแล้ว นอนใน
สถานที่ระงับตัวคนวัดาระ ชื่อว่ากำลังเตือน ต้องไป ออก
แม่ ๒ บาทเบื้องหลัง ก็พึงทราบโดยท่านองค์ที่กล่าวแล้วนั้นแล
ภิญญูไม่มีความตั้งใจ ชื่อว่าย่อมต้องอาบัติที่เป็นอิจฉตะ
เมื่อแสดงเสียในภายหลัง ชื่อว่ามีความลังเลออก
ภิญญูมีความตั้งใจ ชื่อว่าย่อมต้องอาบัติที่เป็นอิจฉตะ. เธอ
นอนอยู่ในสถานะระงับตัวคนวัดาระ ชื่อว่ามีความลังเลออก
แม่ ๒ บาทที่เหลือ ก็พึงทราบโดยท่านองค์ที่กล่าวแล้วนั้นแล
[๕๐๕] ภิญญูใด แสดงสภาพาดิติ ภิญญูชื่อว่าแสดงอาบิติ
อย่างใดอย่างหนึ่งมีปัจจติยื่นให้ ต้องทุกกฏ เพราะการแสดงเป็น
ปัจจัย จริงอยู่ เมื่อแสดงอาบัติอื่น ย่อมต้องทุกกฏ. แต่เมื่อต้อง
ทุกกฏนั้น ชื่อว่าย่อมออกจากอาบัติปัจจติยี่เป็นนั้น. เมื่อออก
จากอาบัติปัจจติยี่เป็นนั้น ชื่อว่าย่อมต้องทุกกฏนั้น. ดูกะนี้ว่ากา
"อุดิ อุปชานโต เทLETED" ดังนี้ พึงทราบว่า "ท่านกล่าว" หมาย
เอาประโยคอันนี้เท่านั้น ของบุคคลผู้นั้น ด้วยประกาศนี้.